สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว ใช้ร่วมกับอะไร ผิวจึงขาวสว่างใสถึงขีดสุด

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว อย่างเดียวคงไม่พอที่จะให้ขาว ต้องทำอย่าอื่นด้วย

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว ตัวช่วยผิวขาวอีกตัวหนึ่งที่สาวๆต้องมีติดห้องน้ำเอาไว้ ก็เพราะเทรนด์ผิวขาวนั้นมาแรงแต่ไหนแต่ไร เพราะฉะนั้นมีอะไรที่ทำให้ขาวได้บ้างก็ต้องหามาใช้ให้หมด ทั้งนี้จะมั่วพึ่งพาแต่สบู่ก็คงไม่ได้ เพราะการจะมีผิวขาวใสนั้นจำเป็นต้องพึ่งพาหลายปัจจัยร่วมกัน ดังนี้

ครีมกันแดด นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในบรรดาตัวช่วยผิวขาวทั้งหมด เพราะว่าแดดบ้านเราร้อนมาก การออกไปข้างนอดโดยปราศจากการทาครีมกันแดดก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาผิวไปให้แดดเผาเลยทีเดียวเพราะฉะนั้นต้องทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน และต้องทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมงด้วย อย่าลืมพกพาร่มหรือหมวกอยู่เสมอ จะช่วยป้องกันแดดได้มากขึ้น หากอยู่ในบ้านควรทาที่มีสารกันแดด SPF15 ขึ้นไป แต่ถ้าออกไปเจอแดดจัดๆ ต้อง SPF50 ขึ้นไปถึงจะป้องกันได้นะค

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

 

โลชั่นบำรุงผิว โลชั่นหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายๆตัวมีส่วนผสมของไวเทนนิ่งลงไปด้วย แน่นอนว่ามันช่วยปรับผิวให้สว่างและสม่ำเสมอขึ้นได้ หากใช้ร่วมกันกับสบู่ก็จะช่วยให้ผิวขาวขึ้นแบบคูณสอง เพราะฉะนั้นอย่าลืมทาโลชั่นทั้งเช้าและก่อนนอนกันทุกวันนะคะ

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

 

การขัดผิว สำหรับผู้ที่ใช้สบู่ที่ทําให้ผิวขาวอยู่แล้ว แต่อยากให้ผิวขาวสดใสขึ้นอีก อย่าลืมขัดผิวกันสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งกันด้วย เพราะการขัดผิวจะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดริ้วรอยจุดด่างดำต่างๆ ผิวจะนุ่มเนียนลื่นขึ้นอย่างสัมผัสได้หากใช้ทำเป็นประจำ อย่างไรก็ตามการขัดผิวนั้นจะทำให้ผิวบางไวต่อแดด เพราะฉะนั้นแนะนำให้ขัดในช่วงก่อนนอน หลังขัดเสร็จต้องทาครีมให้หนักๆเอาไว้ก่อนแล้วเช้าวันต่อให้ทาครีมกันแดดสัก 2-3 รอบเพื่อป้องกันแดดทำร้ายค่ะ

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

 

การหลบแดด ถึงแม้จะใช่สบู่ผิวขาว ครีมกันแดดหรือโลชั่นต่างๆนาๆแล้ว แต่ถ้ายังออกแดดจัดๆอยู่โดยที่ไม่มีสิ่งป้องกัน มันก็อาจทำให้ผิวหมองลงได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุด หากหลีกเลี่ยงต้องใส่เสื้อผ้าที่คลุมทั้งแขนขา ถ้าไม่ชอบใส่จะเปลี่ยนมาใช้ร่มหรือหมวกแทนก็ยังดีค่ะ

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

สบู่ที่ทําให้ผิวขาวถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้บ้าง แต่ถ้าอยากขาวขึ้นมากๆและไม่กลับไปดำอีกก็ต้องดูแลตัวเองในด้านอื่นๆด้วยดังเช่นข้อปฏิบัติด้านบนที่ได้แนะนำไป นอกจากนี้คนอยากขาวทุกคนต้องดูแลผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ผิวที่ขาวใสสมบูรณ์แบบก็จะไม่หนีไปไหนแล้วค่ะ

 

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา เลือกใช้อย่างไรให้ได้ผลจริง

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา มีวิธีการเลือกอย่างไร ให้ปลอดภัย ได้ผลจริง

เมื่อเป็นสิว พอรักษาเสร็จแล้วอย่าคิดว่ามันจะไม่เหลืออะไรให้กวนใจ เพราะถึงสิวจะหายไปแต่รอยสิวยังอยู่ บางคนมีครบทั้งรอยแดง รอยดำแถมหลุมสิวอีก ส่องกระจกทีไรเครียดทุกที แต่จะมัวแต่มาคอยพึ่งพารองพื้นกับคอนซีลเลอร์ก็ไม่ได้ เพราะบางครั้งก็แอบอยากเปลือยหน้าสดออกนอกบ้านบ้าง แถมแต่งหน้าหนาจัดเต็มทุกวันก็อาจทำให้สิวกลับมาเยือนอีกรอบได้ เพราะฉะนั้นการบำรุงผิวหน้าให้แข็งแรงจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวมีอยู่หลายแบบด้วยกัน แต่วันนี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะ เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา เนื่องจากเซรั่มเปนสกินแคร์พื้นฐานที่ทุกคนต้องใช้ แต่ก่อนจะไปดูวิธีเลือก มาทำความรู้จักรอยสิวกันก่อนดีกว่าค่ะ

 

ประเภทของรอยสิว

การจะเลือกเซรั่มที่ช่วยแก้ปัญหารอยสิวได้อย่างตรงจุด เราต้องเข้าใจก่อนว่ารอยสิวบนผิวหน้าเรานั้นเป็นรอยประเภทไหน ดังนี้

  • รอยแดง เกิดจากสิวอักเสบและเป็นสิวที่ยังไม่หายสนิทดีด้วย ผิวยังคงอักเสบและต้นตอของการอักเสบก็ยังคงอยู่ หากปล่อยเอาไว้รอยจะมีสีคล้ำลง ผิวจะหมองได้ เพราะฉะนั้นต้องรีบรักษาด่วนๆ
  • จุดด่างดำ เป็นรอยสิวที่เข้มโดยจะคล้ำกว่าสีผิวจริง เกิดจากการที่ผิวสร้างเม็ดสีเมลานินมากเกินไป รอยแบบนี้จะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ
  • หลุมสิว เกิดจากความพยายามซ่อมแซมตัวเองของผิวหน้า โดยการผลิตคอลลาเจนในปริมาณมากเพื่อเติมเต็มหลุมสิว แต่มันกลับมาเกินไปจนไปขยายรูขุมขนจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่แทน รอยสิวประเภทนี้รักษายาก เซรั่มอาจช่วยไม่ได้เพราะฉะนั้นหากใครมีปัญหาหลุมสิวแบบนี้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังจะดีกว่า

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

 

วิธีการเลือกเซรั่มลดรอยสิวหรือลดจุดด่างดำ

เมื่อรู้จักประเภทของหลุมสิวกันแล้วก็ไปดูวิธีการเลือกเซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดําให้ใช้ได้ผลกันดีกว่าค่ะ

  • ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ต่อสิวหรือรอยสิวโดยตรง เช่น อนุพันธ์วิตามินซีบริสุทธิ์ที่ช่วยยับยั้งการอักเสบของสิวได้ ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น กรดซาลิกไซลิกที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว กระตุ้นให้เซลล์ผิวใหม่ผลิตได้เร็วยิ่งขึ้น เป็นต้น
  • ไม่มีสารเคมีอันตราย ปัจจุบันนี้ยังมีสกินแคร์บางตัวในท้องตลาดที่ลักลอบใส่ไฮโดรควิโนน ซึ่งมันช่วยลดการสร้างเซลล์เม็ดสรเมลานินได้จริง แต่มันมีผลร้ายมากกว่าผลดี เพราะฉะนั้นจึงห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนโดยเด็ดขาด หากไม่มั่นใจแนะนำให้ทดสอบก่อนใช้ นอกจากนี้ควรเลือกเซรั่มที่ไม่มีส่วนผสมของสี น้ำหอมฉุน น้ำมัน สารลดแรงตึงผิว แอลกอฮอล์หรือสารกันเสีย เพราะจะกระตุ้นให้ผิวแพ้ง่ายยิ่งกว่าเดิม แทนที่จะรักษาสิว อาจทำให้สิวเห่อหนักเลยก็เป็นได้
  • ต้องไม่แพ้ ก่อนจะนำมาใช้กับผิวหน้าจริงๆ แนะนำให้ทดสอบกับท้องแขนก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงเพื่อทดสอบอาการแพ้ เพราะในช่วงที่เป็นสิว ผิวจะไวต่อการกระตุ้นได้ง่าย หากใช้สุ่มสี่สุ่มห้า จะทำให้เป็นสิวหนักกว่าเดิมได้ แต่ถ้าทดสอบแล้วไม่มีผลข้างเคียงใดๆก็นำมาใช้ได้เลย

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

จะเห็นได้ว่าวิธีการเลือกเซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดําให้ได้ผลก็ไม่ได้ยากอะไรเลย เพียงแค่ใส่ใจมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง ถึงแม้รอยสิวจะเป็นสุดยอดปัญหาปัญหากวนใจ แต่ถ้าดูแลผิวกันให้ดีๆ รับรองว่ารอยสิวต้องดูจางลงจนกลับมามีผิวสวยใสสุขภาพดีเหมือนเดิมได้อย่างแน่นอน

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

สครับผิวยี่ห้อไหนดี เปลี่ยนผิวหมองคล้ำ ให้กลับมาขาวใส

สครับผิวยี่ห้อไหนดี อยากรู้จังเลย เพราะไม่อยากผิวดำอีกแล้ว

ผิวหมองคล้ำเหมือนกับคนโดนของทำยังไงดี ไม่อยากผิวคล้ำอีกต่อไปแล้วควรเลือกใช้สครับผิวยี่ห้อไหนดีนะ? การสครับผิวเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยปรับสภาพผิวให้กลับมานุ่มเนียน สว่างสดใสมากขึ้น เพราะเป็นที่รู้กันว่าในประเทศไทยเทรนด์ผิวขาวค่อนข้างมาแรงหลายยุคหลายสมัยมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวขายอยู่มากมายเต็มไปหมดรวมถึงสครับผิวด้วย เมื่อมีขายเยอะเกินไปจนเลือกไม่ถูก จึงอยากให้สาวๆมาลองใช้วิธีสครับผิวจากธรรมชาติแทนดูก่อน สูตรสครับเหล่านี้ทำได้ง่าย วัตถุดิบก็หาได้ไม่ยาก แถมไม่อันตรายต่อผิวอีกด้วย ว่าแต่จะมีสูตรใดบ้างนั้นมาดูกันดีกว่าค่ะ

1.เบกกิ้งโซดา ใครที่ทำขนมบ่อยๆน่าจะมีเบกกิ้งโซดาติดครัวไว้อยู่บ้าง อยากบอกว่านี่คือวัตถุดิบชั้นดีสำหรับสครับผิว เพราะเบกกิ้งโซดาเป็นผงสีขาวที่เนียนละเอียด เหมาะสำหรับขัดผิวมาก แค่นำไปผสมกับโยเกิร์ต มะขามเปียกหรือน้ำมันมะพร้าวแล้วนำมาขัดวนๆให้ทั่วร่างกายทิ้งไว้สัก 15-20นาทีแล้วล้างออก ขัดสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง รับรองว่าผิวนวลเนียนขึ้นอย่างแน่นอน แต่ถ้าใครต้องการเห็นผลเร็วๆ จะขัดด้วยเบกกิ้งโซดาเพียวๆเลยก็ได้ แต่มันอาจจะแสบผิวไปนิด เพราะฉะนั้นจึงไม่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบอบางค่ะ

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

 

2.มะขามเปียก เป็นวัตถุดิบยอดนิยมในการขัดผิว ซึ่งจะนำมะขามเปียกมาละลายน้ำแล้วขัดเลยก็ได้ หรือจะผสมกับส่วนผสมอย่างอื่น เช่น นมสด โยเกิร์ต หรือน้ำผึ้งก็ได้ เนื้อสครับจะนุ่มเนียน ขัดผิวได้สะอาด ไม่บาดผิว แต่ถ้าใครชอบสครับแบบมีเม็ด สามารถใส่เกลือหรือน้ำตาลลงไปเพิ่มได้ จะช่วยกำจัดขี้ไคลออกได้ดีขึ้น มะขามเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีและกรดเอเอชเอธรรมชาติสูงมาก วิตามินซีช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มลื่น ส่วนเอเอชเอนั้นจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสกว่าเดิม ผิวจะเรียนเนียน สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

 

3.มะเขือเทศ สามารถใช้ขัดพอกได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย สำหรับผิวหน้าแค่ฝานมะเขือเทศเป็นแว่น แช่ตู้เย็นสักครู่แล้วนำมาแปะให้ทั่วใบหน้าก็ช่วยบำรุงผิวได้ดีแล้วค่ะ ส่วนผิวกายนั้นแนะนำให้ปั่นมะเขือเทศจนละเอียดก่อน ผสมน้ำตาลลงไป คนให้เข้ากันอย่างรวดเร็วแล้วรีบนำมาขัดก่อนที่น้ำตาลจะละลายหมด มะเขือมีสารอาหารผิวอยู่หลายชนิด เช่น วิตามินซี ไลโคปีน เอเอชเอ เป็นต้น ซึ่งมันช่วยบำรุงผิวให้กลับมาเรียบเนียน ดูกระจ่างใสอมชมพูได้ ส่วนน้ำตาลนั้นช่วยให้ขัดผิวได้ง่ายขึ้น แถมยังเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้อีกด้วย

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

หากอยากมีผิวที่เรียนเนียนขาวกระจ่างใส ก็อย่าลืมสครับผิวกันอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งด้วยนะคะ อย่างไรก็ตามหลังสครับผิวจะแห้งมากขึ้นเพราะฉะนั้นต้องบำรุงให้มากขึ้นด้วย ผิวจะได้แข็งแรง ไม่แห้งตึงมากเกินไป หากใครอ่านแล้วรู้สึกว่าทำสครับเองมันยุ่งยาก แต่ก็ยังไม่รู้จะเลือกใช้สครับผิวยี่ห้อไหนดี ลองใช้ผลิตภัณฑ์ของจาง Jelly ดูได้ รับรองตอบโจทย์ในเรื่องความนวลเนียนขาวกระจ่างใส แถมยังปลอดภัยและไม่ระคายเคืองต่อผิวอีกด้วยค่ะ

โลชั่นยี่ห้อไหนดี

โลชั่นยี่ห้อไหนดี ผิวชุ่มชื้นกระจ่างใส จนใครๆก็อยากสัมผัส

โลชั่นยี่ห้อไหนดี เลือกให้ดี ตอบโจทย์ความต้องการของผิวเราได้ กระจ่างใส ขาวไร้ริ้วรอย

ครีมทาหน้า เซรั่มบำรุงผิว โลชั่นผิวขาว จะเลือกอะไรดี โลชั่นยี่ห้อไหนดี แบบไหนจะตอบโจทย์ความต้องการ เดียวนี้จะไปหาซื้อโลชั่นหรือครีมบำรุงผิว บางทีก็เลือกไม่ถูก วันนี้ Jellys Thailand เราจึงอยากจะมาแนะนำวิธีการเลือกโลชั่นผิวขาว ว่าเราจะเลือกโลชั่นแบบไหนที่เราชอบ หรือต้องการได้ตรงใจ !!!!

สำหรับวิธีการเลือกโลชั่นผิวขาว ผู้บริโภคอย่างเราๆ ต้องเข้าใจสภาพผิวของตัวเราเองให้ดีก่อนว่า เราจะใช้โลชั่นหรือครีมแบบไหน ที่เข้ากับสภาพผิวเรา หรือปรับสภาพผิวเราให้กระจ่างใสได้ นอกจากนี้ การเลือกโลชั่นบำรุงผิวต้องดูด้วยว่า ความชุ่มชื่นหลังทาแล้วผิวเรา มีความชุ่มชื่นระดับใด ระดับปานกลาง หคือ ชุ่มชื้นมาก อันนี้ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของสาวๆ แต่ละคน แต่เชื่อว่า สาวๆ ทุกคน คงไม่มีใครชอบโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวที่ทาแล้ว ให้ความรู้สึกเหนียวผิวเราเป็นแน่ !!!

โลชั่นยี่ห้อไหนดี

 

เดียวนี้โลชั่นมีให้เลือกเยอะ ซึ่งเราก็ต้องดูว่า เราใช้เพื่อการใด เช่น ถ้าเราใช้บำรุงผิวในกรณีไปทำงานทุกวัน ไม่ได้โดนแดดหรือแสง UV แรงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้โลชั่นที่มีค่า SPF มากๆ ก็ได้ หรือบางคน เลือกใช้โลชั่นแบบธรรมดา ซึ่งตัวเราเอง กลับเป็นคนที่มีผิวคล้ำ ผิวดำแดง หรือบางที เป็นคนมีผิวเป็นจุดด่างดำ เนื่องจากผิวได้รับแสงแดดที่มากอยู่เป็นประจำ  การเลือกซื้อโลชั่นให้เหมาะกับสภาพผิวหรือคำนึงถึงผิวขั้นต้นเราก่อนจิงเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ถ้าใครอยากให้ผิวคล้ำหมอง ดีขึ้นในระยะเวลาอันสั้น อันนี้แนะนำให้ไปฉีดแทนคะ

 

ก่อนที่จะสรุปว่าโลชั่นยี่ห้อไหนดี เปลี่ยนมาดูในกลุ่มการเลือกซื้อตามประเภทของกลุ่มโลชั่นกันดีกว่า“Whitening Lotion” ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า สำหรับคนที่รต้องการความกระจ่างใส เพราะโลชั่นประเภทนี้จะมีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว ช่วยในเรื่องของการยับยั้งการเพิ่มของเม็ดสีในชั้นผิว นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการไหลเวียนของเลือดได้ดี ทำให้ผิวมีความกระจ่างใส แลดูมีเลือดฝาดอย่างเห็นได้ชัด

โลชั่นยี่ห้อไหนดี

“Sunscreen Lotion” จริงๆ โลชั่นกลุ่มนี้จะเหมาะกับสาวๆ ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทะเล และที่สำคัญ กลุ่มโลชั่นแบบนี้ จะช่วยในเรื่องของการปกป้องผิวจากแสงแดดแรงๆ เข้าทำลายชั้นผิวของเรา แต่ที่สำคัญ การเลือกแบบนี้ ควรเลือกโลชั่นที่ไม่มีส่วนผสมหรือสารปรุงแต่ง อื่นๆ จะให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

 

และสำหรับใครที่ชอบใช้โลชั่นบำรุงผิวหลังอาบน้ำ เป็นกลุ่มคนประเภทที่ไม่ชอบมีเครื่องสำอางหลากหลายแบบ ใช้โลชั่นบำรุงตั้งแต่ผิวหน้ายังผิวกาย ก็ควรจะดูโลชั่นในกลุ่มที่มีส่วนผสมของ SPF สูง และสามารถป้องกันรังสี UNB เช่นเดียวกันบค่า PA ที่มีค่าบวกมากเท่าไร ก็จะสามารถปกป้องผิวได้มากขึ้นเท่านั้นเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี โลชั่นประเภทนี้อาจจะมีความเหนียวหน่อย ๆ อันนี้ขึ้นอยู่กับส่วนผสมในแต่ละแบรนด์

โลชั่นยี่ห้อไหนดี

ส่วนใครที่ยังสังเลอีกว่าโลชั่นยี่ห้อไหนดี ให้เลือกจากเนื้อสัมผัสมาก่อน เป็นกลุ่มคนที่ชอบที่เนื้อสัมผัสให้ความรู้สึกนุ่ม ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวตัว เวลาชาแล้วรู้สึกถึงความซึมซาบ ที่สำคัญ จะชอบตรงที่เป็นกึ่งๆ เซรั่ม ดังนั้นถ้าคนชอบเลือกโลชั่นบำรุงผิวแนวนี้ จะต้องเลือกกลุ่มที่มีส่วนผสมหรือสูตรที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นส่วนผสมหลักๆ และจะเหมาะกับสาวๆ ที่มีผิวแห้ง หยาบกร้านมากๆ เพราะส่วนผสมหลักตัวนี้ที่มีอยู่ในโลชั่น มันจะตอบโจทย์ในเรื่องของความชุ่มชื่นเป็นหลัก

 

เนื้อสัมผัสกับกลิ่นหอมก็สำคัญนะจ๊ะ เพราะอย่งที่บอก ไม่สำคัญได้ไง เพราะเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ต้องมีติดตัวไว้ เพราะชอบทาโลชั่นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันกันอยู่แล้ว ซะนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก เลยที่จะเลือกโลชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องเนื้อสัมผัสกับกลิ่นที่ใช่โดนใจเป็นหลักมาก่อนแล้วค่อยไปดูเรื่องสรรพคุณอื่นๆ ถ้าสามารถตอบโจทย์ความต้องการครอบคลุมได้ทั้งหมด ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้กลุ่มลูกค้าสาวๆ กลุ่มนี้ เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ยอมเสีียตังค์ให้แบรนด์ของเรา

โลชั่นยี่ห้อไหนดี

สรุปตรงนี้เลยแล้วกัน ว่า ถ้าจะตั้งโจทย์ว่า โลชั่นยี่ห้อไหนดี ? มันคงจะตอบยาก ตอบไป ก็เดียวหาว่าอวยแบรนด์ ตอบไปก็เดียวหาว่า คนนี้ใช้แล้วไม่เห็นเหมือนอย่างที่รีวิวเอาไว้ ดังนั้น การเลือกซื้อโลชั่นบางทีก็ไม่ได้ดูที่ดีไม่ดี ดูที่อันไหนตอบโจทย์เราได้มากกว่า สาวๆ นักเลือก รุ้กันหรือยังว่า คุณเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโลชั่นแบรนด์ไหน กลุ่มอะไร แล้วคุณเลือกอยู่เพราะอะไร ตอบคำถามที่เราถามกลับไปยังสาวๆ คนสวยอย่างคุณได้หรือเปล่า ?

 

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

โลชั่นยี่ห้อไหนดีที่ช่วยบำรุงผิวให้สดใส เนียนนุ่ม ถูกใจผู้ใช้

โลชั่นยี่ห้อไหนดีใช้แล้วผิวขาว สวยแบบสาวเกาหลี

จะเลือกโลชั่นยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับผิวของเราบ้าง

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว เปลี่ยนหน้าสิวให้เป็นหน้าใสด้วยครีม

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว ที่ช่วยรักษาสิวและบำรุงหน้าไปในตัว

สิว หลายคนฟังแล้วอาจจะคิดว่าเป็นปัญหาเล็กๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีสิวบนใบหน้าเยอะๆเข้าก็จะกลายเป็นปัญหาที่ไม่เล็กไปซะแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่สิวเหล่านี้ได้ขึ้นมาอยู่บนใบหน้านั้นการจะทำให้หายไปได้ต้องใช้เวลาที่นานมากๆ อาจจะหลายวันหรือเป็นเดือนเลยก็มี ซึ่งการจะใช้ยาหรือครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวเพื่อให้สิวยุบลงนั้นก็ไม่สามารถทำให้สิวหายได้ทันใจ ต้องมีการดูแลเอาใจใส่ผิวหน้าอย่างมากภายหลังจากที่สิวเหล่านี้ขึ้นมาแล้ว เพราะใบหน้าจะมีความบอบบางมากเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นสิวอักเสบด้วยแล้วนั้น ถ้าดูแลผิวหน้าไม่ดีพอ จะทำให้เกิดการสะสมและสิวก็จะลามไปอีก

แล้วสิวเกิดขึ้นมาได้อย่างไร อะไรเป็นปัจจัยให้สิวเหล่านี้เกิดขึ้น จริงๆแล้ว สิวเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องพบเจอในช่วงอายุหนึ่ง และส่วนใหญ่สิวจะเกิดกับวัยรุ่นมากกว่าวัยอื่นๆ เพราะวัยนี้ฮอร์โมนจะยังไม่เข้าที่ และยังต้องทำกิจกรรมมากมายในแต่ละวัน เช่นการไปโรงเรียน การเล่นกีฬา การเจอแสงแดดและมลพิษจากภายนอก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยตัวสำคัญที่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของความสกปรก คราบความมันบนใบหน้า ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวขึ้นได้เช่นกัน

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว

สิวที่เกิดขึ้นบนในหน้านั้นส่วนใหญ่จะเกิดมาจากการทำความสะอาดผิวหน้าได้สะอาดไม่เพียงพอ ทำให้มีเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและมีสิ่งสกปรกต่างๆมากมายยังคงตกค้างอยู่บนใบหน้ามากมายเป็นเหตุให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน และสุดท้ายก็กลายเป็นสิวอุดตันไปในที่สุด ซึ่งเมื่อเป็นสิวแล้วนั้น ต่อให้มีการหายาแต้มสิวหรือครีมรักษาสิวมาทาก็กว่าจะหายก็ใช้เวลาที่นานมากๆ แถมอาจจะแพ้ครีมเหล่านั้นอีกด้วย ซึ่งก่อนจะให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้น เพียงการทำความสะอาดที่หมดจรดเพียงพอและมีการบำรุงดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้ห่างไกลจากสิวเหล่านั้นได้

 

การใช้ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว พร้อมกับการดูแลผิวหน้า

1.หากต้องมีการแต่งหน้าในช่วงที่เป็นสิวนั้น ให้ทำการแต่งหน้าเพียงอ่อนๆก็พอ ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่มีความมัน หรือเพิ่มความมันให้กับใบหน้า เพราะจะทำให้ยิ่งมีการอุดตันและระคายเคืองบริเวณที่เป็นสิวมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดปัญหาสิวที่เพิ่มขึ้นตามมา

2.หลังจากการแต่งหน้าในระหว่างวันแล้ว ให้ทำการเช็ดเครื่องสำอางออกก่อนการล้างหน้าทุกครั้งด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดเครื่องสำอาง และต้องเช็ดจนกว่าจะมั่นใจว่าคราบเครื่องสำอางเหล่านั้นหมดเกลี้ยงแล้ว

3.ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับคนเป็นสิว ซึ่งจะทำให้มีความอ่อนโยนมากกว่าโฟมล้างหน้าชนิดอื่นๆ และยังไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองภายหลังการล้างหน้าอีก ซึ่งผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้านี้ต้องมีความมั่นใจว่ามีความอ่อนโยนมากพอสำหรับคนเป็นสิว และควรจะเป็นสูตรที่มีการช่วยปรับความสมดุลให้กับผิวหน้าด้วย จะทำให้ใบหน้าค่อยๆดีขึ้นและสิวก็เกิดน้อยลงได้

4.หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว ให้ทายาลดสิวหรือครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวได้เลย โดยต้องมั่นใจว่าครีมหรือยาที่นำมาใช้นั้นจะไม่มีผลข้างเคียงต่อสิวที่เป็นอยู่ และจะต้องไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ตามมาในภายหลัง เพราะหากใช้ยาที่มีความแรงเกินไป อาจทำให้ใบหน้าระคายเคือง และไวต่อแสงได้ เมื่อโดนแสงแดดจะทำให้บริเวณนั้นมีความคล้ำลงกว่าบริเวณอื่นๆที่ไม่ได้ทา ดังนั้นจึงควรระวังให้มากๆเพื่อไม่ให้ใบหน้าอ่อนแอลงไปอีก

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว

 

หากสามารถดูแลรักษาผิวหน้าได้ตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอแล้วนั้น ใบหน้าที่เป็นสิวอยู่ก็จะค่อยๆทุเลาลงไปได้ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้หายเป็นสิวเลยก็คือ อย่าปล่อยให้ใบหน้ามีการสะสมของความมันและสิ่งสกปรก เพราะจะทำให้สิวเกิดขึ้นมาได้อีกครั้ง และข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือ ไม่ควรงัดแงะ แกะ เกาใบหน้าขณะที่เป็นสิว หรือทำการล้างหน้าแรงๆเพื่อหวังว่าจะช่วยทำให้ใบหน้าสะอาดมากยิ่งขึ้น การทำแบบนั้นมีแต่จะทำให้ผิวหน้ายิ่งแย่ลงไปอีก นอกจากจะทำให้เกิดการระคายเคืองจนเป็นสิวแล้ว ยังอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย  

ซึ่งปัญหานี้ก็ถือเป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายๆคนอีกปัญหาหนึ่งไม่แพ้ปัญหาสิวเช่นกัน นอกจากการดูแลผิวหน้าให้สะอาดครบถ้วนแล้วนั้น การทานผักผลไม้เองก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่สามารถทำให้ไม่ต้องพึ่งครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวเลย เพราะถ้าทานสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยให้ห่างไกลจากสิวขึ้นไปอีก ผิวพรรณจะมีความแข็งแรงมากขึ้นจากการทานสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายๆคนมักจะเขี่ยออกจากจานอาหาร หรือร้องหยีเวลาที่จะกินมันกันเลย แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อผิวพรรณมากเพียงใด ซึ่งผักและผลไม้ที่ช่วยให้ห่างไกลสิวมีก็จะดังนี้

 

1.มะเขือเทศ เป็นที่รู้กันสำหรับคนที่รักสุขภาพและชอบดูแลผิวมักจะเลือกทานสิ่งนี้กัน แต่คนส่วนใหญ่นั้นมักจะร้องหยึยเลยเมื่อจะต้องทานมะเขือเทศนี้ เพราะมีรสชาติที่แปลกๆแตกต่างจากผักผลไม้ชนิดอื่นที่มีรสชาติหวานอร่อยหรือไม่ก็เปรี้ยวไปเลย มะเขือเทศนี้มีประโยชน์มาก อุดมไปด้วยวิตามินซี และไลโคปีน ซึ่งเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ช่วยทำให้ผิวพรรณแข็งแรง ดูมีเลือดฝาด สามารถช่วยลดการเกิดสิว และช่วยให้ผิวไม่ไวต่อแสงแดดอีกด้วย

 

2.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ อาทิเช่น สตอเบอร์รี่ ,   บลูเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่ และอื่นๆอีกมากมาย ผลไม้ตระกูลนี้จะอุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินอื่นๆอีกมากมายที่จะช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนั้นวิตามินซีในผลไม้เหล่านี้ ยังช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย เพียงทานผลไม้เหล่านี้ก็ไม่ต้องใช้ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวเลย เพราะผิวมีความแข็งแรงอยู่แล้วนั้นเอง

 

3.ผลไม้ตระกูลส้ม ไม่ว่าจะเป็นส้มเขียวหวาน ส้มแบบต่างๆ หรือแม้กระทั่งส้มโอเอง ก็เป็นผลไม้ที่ช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรง ห่างไกลจากสิวได้ เพราะผลไม้เหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งจะช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้นได้นั่นเอง

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว

 

จะเห็นได้ว่าการทานผักและผลไม้สามารถช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรงขึ้นได้ นอกจากการทานสิ่งเหล่านี้ช่วยในเรื่องผิวพรรณและช่วยลดสิว ทำให้สิวหายเร็วยิ่งขึ้นแล้วนั้น ยังช่วยในเรื่องของปัญหาเลือดออกตามไรฟัน  เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นหวัดง่ายได้อีกด้วย จริงอยู่ว่าการทานผักผลไม้เป็นประจำจะช่วยให้ห่างไกลจากสิวได้ แต่เมื่อไหร่ที่ร่างกายอ่อนแอ หรือมีความเครียดมาเยือน สิวเหล่านี้ก็อาจบุกมาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเพียงการทานสิ่งเหล่านี้คงไม่พอ ต้องมีตัวช่วยเสริมในการปราบสิวอีก หากอยากให้เรื่องสิวไม่มากวนใจก็ต้องมีการใช้ครีมบำรุงที่จะช่วยให้ใบหน้ามีความแข็งแรงและสมดุลมากขึ้น

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว

 

สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะใช้ครีมสำหรับสิวตัวไหนดี ก็มีครีมจากแบรนด์ Jellys ที่อยากจะมาแนะนำสำหรับคนเป็นสิว ซึ่งเป็นครีมที่ดีและน่าสนใจมาก มีชื่อครีมว่า เพียวเฟสบลูฟินทูน่า เป็นครีมที่สกัดมากจากน้ำตาปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้ามีการสร้างคอลลาเจนที่มากขึ้น ช่วยลดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆที่เป็นปัญหาบนใบหน้า และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไปได้ง่ายขึ้นอีก ครีมมีความอ่อนโยนมาก แม้ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ มั่นใจหายห่วงเลย สำหรับผู้ที่สนใจสั่งซื้อครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว เพียวเฟสบลูฟินทูน่า นี้ สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ jellysthailand นอกจากครีมเพียวเฟสบลูฟินทูน่านี้ ทางแบรนด์ก็มีครีมและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอีกมากมายให้เลือกใช้ สามารถดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ทางเว็บไซท์เดียวกันได้เลย

 

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวเปลี่ยนหน้าสิว ให้เป็นหน้าใสด้วยครีม

ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว เลือกใช้ครีมอย่างไรดี ช่วยบอกที

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ ร่วมกับครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว กระจ่างใส เหมือนเนรมิตได้ทุกวัน

ผิวขาวกระจ่างใสได้ง่ายๆ ด้วยสบู่ที่ทําให้ผิวขาว จนใครๆต้องทัก !!!

สาวๆ ทุกคน ต้องดูแลตัวเอง ตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งที่สาวๆ อย่างเราจะมองข้ามไปไม่ได้ ก็คือเรื่องผิวพรรณนั่นเอง ด้วยตัวเลขอายุที่มากขึ้น ทำให้เราต้องใส่ใจดูแลผิวมากขึ้น ไม่เช่นนั้น ก็จะทำให้ผิวที่ดูสวยงาม เตร่งตึง ก็จะดูหย่อนคล้อย เหี่ยวย่นกันไปตามกาลเวลา

เชื่อหรือไม่ว่า เพียงการดูแลผิวที่ถูกต้อง ใช้ผลิตภัณฑ์ให้ถูกกับผิวของเรา ก็จะทำให้ผิวพรรณของเราดูขาวใส เนียนได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งครีมพอกผิว หรือไปเข้าคอร์สเสริมความงามดูแลผิวที่มีราคาแพงๆ แล้ว เรื่องของผิวขาวสวย สาวๆ ทุกคนล้วนมีความปราถนาด้วยกันทั้งนั้น ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้มีผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ดูแลผิวพรรณเรียกว่า มีให้เลือกหลากหลาย มีให้เลือกตั้งแต่ชุดครีมอาบน้ำ สบู่ที่ทําให้ผิวขาว ครีมเซรั่มที่ทำให้ผิวหน้าดูเด้ง ไร้จุดด่างดำ  ผิวแห้งกร้าน หยาบกระด้าง ทำให้สีผิวที่เห็นบางจุดดูไม่สม่ำเสมอกัน เรียกว่างานนี้เราต้องมาเคลียร์ปัญหาต่างๆ อย่าปล่อยไว้นาน เพื่อช่วยให้ผิวพรรณของเรา กลับมาขาวสว่างใจ เนียนนุ่ม และที่สำคัญเมื่อสุขภาพผิวเราดีขึ้น สุขภาพจิตของเราก็จะดีตามไปด้วย

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

 

วันนี้ Jellys Thailand เรามีวิธีการสยบปัญหาผิวแห้งกร้าน หยาบกระด้าง สีผิวกระดำกระด่าง ไม่สม่ำเสมอ มาบอกกัน

ทำความสะอาดผิวอย่างไร ให้ลึกถึงจุดที่มีปัญหาแอบแฝง ถือว่าเป้นขั้นตอนแรกๆ อันดับต้นๆ คือเรื่องของการทำความสะอาดผิวของเรานั่นเอง แต่จะทำความสะอาดผิวอย่างไรให้ถูกต้อง ทำให้มันสะอาดล้ำลึก อันดับแรก เราเชื่อว่า ทุกวันนี้ ใครๆ ก็ต้องแต่งหน้า อย่าปฎิเสธพฤติกรรมนี้ของคุณ เพราะแค่การทาแป้งก็คือหนึ่งในการแต่งหน้าแล้ว แป้งบางแบรนด์ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาสิวอักเสบได้ หากได้รับการความสะอาดผิวหน้าที่ไม่ดีพอ เราต้องใช้ตัวคลีนเซอร์ช่วยล้างคราบเครื่องสำอางออกไปให้สะอาดหมดจด โดยให้ทำการเช็คล้างออกหลายๆ รอบ จนทำให้คราบเครื่องสำอางต่าๆง ออกหมดจริงๆ

จากนั้น ก็ให้ใช้โฟมล้างหน้าทำความสะอาดผิวหน้าของคุณตามสภาพผิวที่แต่ละคนเป็นหรือประสบปัญหาอยู่ เช่น ถ้าคุณเป็นคนผิวหน้ามัน ก็ควรล้างออกด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้า 1-2 รอบ จากนั้นให้เช็ดหน้าให้แห้ง แล้วตามเช็คทำความสะอาดด้วยโทนเนอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

ถัดมาที่ผิวพรรณกายของเรา ก็ต้องฟอกตัวด้วยสบู่หรือครีมอาบน้ำ หากใครต้องการผิวพรรณที่ดูขาวสดใจก็อาจจะเลือกใช้สบู่ที่ทําให้ผิวขาว แต่ต้องเลือดูให้ดี เพราะมีทั้งแบบขาววอก หรือขาวแบบธรรรมชาติ ทำการถูกสบู่ให้ทั่ว ทิ้งไว้ 1-2 นาทีแล้วค่อยทการล้างออก  วิธีนี้มันจะทำให้ฟองสบู่ที่เราถูกตามจุดต่างๆ ทิ้งไว้ ช่วยขจัดคราบไคลเหงื่อ กลิ่นเหม็นเปรี้ยวต่างๆ ให้หมดไปกับน้ำซะล้างร่างกายของเราทุกครั้งที่อาบน้ำนั่นเอง

โดยหลังจากที่เราทำความสะอาดผิวพรรณร่างกายของเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ไม่ควรลืมทุกครั้งที่อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ ก็คือการบำรุงผิวพรรณของเราให้พร้อมจะเด้ง และกลับมาขาวใสด้วยครีม เซรั่ม หรือโลชั่นบำรุงผิว ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ในทุกๆ วัน เรียกว่าต้องทำกันเป็นประจำทุกวัน และต่อเนื่อง ย้ำว่าต้องทุกวัน และต่อเนื่อง ไม่อย่างนั้น ผิวเราจะเสียและเกิดการสะสมจนทำให้ผิวแห้งกร้าน ทำให้เกิดจุดด่างดำ และมีริ้วรอยก่อนวันอันควรแน่นอน


การสครับผิว ก็ทำให้เซลล์ผิวที่เสียหรือตายแล้ว หลุดออกจากร่างกายของเราได้ เพราะนอกจากการใช้สบู่ที่ทําให้ผิวขาว หรือการเลือกใช้ครีม หรือเซรั่มบำรุงผิวหน้า ผิวกายแล้ว การสครับผิวก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำได้ แต่แนะนำให้เลือกใช้สครับที่อ่อนโยนต่อผิวพรรณเรามากที่สุด เพราะถ้าเลือกใช้สครับผิวที่มีความรุนแรงต่อผิวทุกครั้งที่สครับหรือขัดผิว อาจจะทำให้ผิวของเราเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ ให้ถูกนวดเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้าหรือผิวกายของเรา ประมาณ 5-10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หลายๆ ครั้ง

หลังจากนั้นอย่าลืมล้างหน้าด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้า ระหว่างล้าง ก็ให้นวดกดจุดบนใบหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดเราบนผิวหน้าด้วย ส่วนการสครับผิวกาย อีกหลากหลายวิธีที่หลายๆ คนรู้กันอยู่แล้ว ก็เช่น การสครับผิวกายด้วยการสปาเกลือ กากกาแฟ หรือน้ำตาลสำหรับใช้สครับผิว โดยการนวดขัดให้ทั่วเรือนร่างและผิวอันสวยงามของเรา 15-20 นาที อาจจะเน้นตามจุดต่างๆ เป็นพิเศษเช่น ตามข้อศอก หรือตาตุ่ม เพื่อให้ผิวเปรับสมดุลและให้เรียบเสมอกัน

 

นอกจากนี้ การดื่มน้ำ ก็จะช่วยให้ผิวพรรณของเราดูเปล่งปลั่ง ขึ้นได้ดีอีกด้วย หลายๆ คน ใช้ครีม ใช้เซรั่มบำรุงผิว ใช้สบู่ที่ทําให้ผิวขาว แต่ทำไม บางทีใช้แล้วถึงไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะเราเองอาจจะดื่มน้ำน้อย หรือทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ดังนั้น จุดที่สำคัญ คือเรื่องของอาหารและน้ำ ก็ต้องเช็คให้ดี ทานให้ครบ และทำตามข้อแนะนำข้างต้นที่บอกไป เพียงเท่านี้ รับรองได้ว่า ไม่เกิน 3 สัปดาห์ผิวพรรณของคุณจะต้องได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการอย่างแน่นอน

 

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว ใช้ร่วมกับอะไร ผิวจึงขาวสว่างใสถึงขีดสุด

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว จะช่วยทำให้ขาวขึ้น ได้จริงหรือไม่

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ใช้แล้วผิวขาวสดใส

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา เปลี่ยนหน้าด่าง ให้กลับมาใสได้ง่ายๆ

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา เปลี่ยนหน้าหมองคล้ำ ให้กลับมาสดใส

ปัญหาริ้วรอยจุดด่างดำบนใบหน้าเป็นปัญหาที่หลายๆคนต้องพบเจอและกลุ้มใจกันมาก เพราะเมื่อเป็นแล้วกว่าจะหายจนใบหน้ากลับมาเนียนใสไร้ริ้วรอยได้อีกครั้งนั้นต้องใช้เวลาที่นานหลายเดือนกว่าจะจางหมด ไม่ว่าจะใช้วิธีมากมายแค่ไหนจุดด่างดำเหล่านี้ก็ไม่หายไป ทาครีมก็แล้ว สครับผิวก็แล้ว จุดด่างดำต่างๆก็ยังคงอยู่ จนหลายๆคนต้องมองหาตัวช่วยเป็น เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา แต่ก็ไม่รู้จะใช้เซรั่มยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยให้จุดด่างดำเหล่านี้จางลง เพราะเซรั่มในท้องตลาดนั้นก็มีหลากหลายมากมายเหลือเกินให้ได้เลือกซื้อเลือกใช้ในท้องตลาด แถมใช้ไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลอย่างที่ตั้งใจรึเปล่า จะเสียเงินฟรีไหม แต่จริงๆแล้วปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าตอนที่เริ่มเป็นสิว หรือแผลบนใบหน้า ไม่ไปงัด แงะ แกะ เกามัน มั่นใจได้เลยว่าโอกาสเป็นจุดด่างดำนั้นน้อยมาก เพราะไม่มีอะไรไปกระตุ้นให้สิ่งเหล่านั้นเกิดการอักเสบติดเชื้อ จนเป็นเหตุให้ต้องเป็นจุดช้ำๆดำๆตามมาและทำให้สิ่งที่เป็นอยู่ยิ่งหายช้าขึ้นไปอีก แต่ริ้วรอยจุดด่างดำเหล่านี้เมื่อเป็นแล้วก็สามารถหายได้ไม่ยาก ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลรักษาตนเองภายหลังจากที่เป็นจุดด่างดำเหล่านี้นั่นเอง

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

ริ้วรอยและจุดด่างดำจากสิวเป็นปัญหาเล็กๆแต่ไม่เล็กเลยเมื่อมาอยู่บนใบหน้า หากจุดด่างดำเหล่านี้อยู่ตามลำตัวคงไม่เป็นปัญหาสักเท่าไหร่เพราะสามารถหาเสื้อผ้าหรืออะไรก็ตามปกปิดได้ แต่ถ้ามีบนใบหน้าแล้วนั้นการจะทำให้หายได้ต้องใช้เวลาที่ยาวนานกันเลยทีเดียวและคงต้องใช้เครื่องสำอางกลบกันไปพรางๆก่อน การใช้เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดําเองก็เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยทำให้ริ้วรอยเหล่านี้ค่อยๆจางลงได้ แต่จริงๆแล้ว ริ้วรอยจุดด่างดำเหล่านี้สามารถหายไปเองได้ เพราะเซลล์ผิวหนังนั้นจะมีการซ่อมแซมตนเองอยู่ทุกวันอยู่แล้ว เพียงการดูแลและบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว  และนอกจากการบำรุงผิวนั้น ยังต้องทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวด้วย เพื่อช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น โดยอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวนั้นก็จะได้แก่ผักผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงนั้นเอง ดังนี้

 

1.มะเขือเทศ เป็นที่รู้กันว่ามะเขือเทศช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้นและมีประโยชน์มากทั้งต่อผิวพรรณและร่างกาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซี ไลโคปีนและวิตามินอื่นๆอีกมากมาย การทานมะเขือเทศบ่อยๆนั้นหลายคนเห็นผลมากในเรื่องของผิวที่ขาวอมชมพู และทำให้ผิวพรรณดุอ่อนเยาว์ ช่วยลดการเกิดสิว ริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆบนร่ายกายได้ ช่วยซ่อมแซมผิวให้กลับมาแข็งแรง

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

 

2.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ เช่น สตอเบอร์รี่ , ราสเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่ เป็นต้น ผลไม้เหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินซีที่จะช่วยซ่อมแซมผิวหนังให้กลับมาแข็งแรงขาวใส เปล่งปลั่งมากขึ้น และแค่เพียงทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เหล่านี้เป็นประจำก็ไม่ต้องพึ่งเซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดําเลย และนอกจากนั้นวิตามินซีที่อยู่ในผลไม้เหล่านี้ยังช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น ผิวจึงค่อยๆกระจ่างใส หลายคนที่ทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงส่วนใหญ่พบว่าผิวพรรณเปล่งปลั่งขาวใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

 

3.มะขามป้อม ถึงแม้ว่ามะขามป้อมนั้นจะมีรสเปรี้ยวฝาดหรือบางครั้งก็ขมฝาดๆ แต่ก็อุดมไปด้วยวิตามินที่ดีต่อผิวเช่นกัน ที่สำคัญเห็นรสชาติฝาดๆแบบนี้แต่ก็อุดมไปด้วยวิตามินซีที่สูงกว่าส้มถึง 20 เท่าเลยทีเดียว นอกจากจะทำให้ผิวสวยสุขภาพดีแล้ว ยังช่วยลดริ้วรอยต่างๆรวมถึงจุดด่างดำได้อีกด้วย และที่พิเศษไปกว่านั้นคือการทานมะขามป้อมยังมีประโยชน์ในเรื่องของการทำให้ชุ่มคอสำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของอาการไอและเจ็บคอ

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

แค่เพียงการทานผักผลไม้เหล่านี้ก็สามารถทำให้ผิวพรรณกลับมาสดใสเปล่งปลั่ง ไร้ริ้วรอยได้อีกครั้งแล้ว ถือเป็นวิธีง่ายๆที่ก็สามารถทำได้ทุกวัน

นอกจากการทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงเหล่านี้ ยังมีวิธีการง่ายๆที่จะช่วยให้ผิวมีการฟื้นฟูและผลัดเซลล์ผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือสูตรการมาส์กผิว ซึ่งสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยจุดด่างดำได้อีกด้วย เป็นวิธีที่ไม่ต้องพึ่งเซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดําก็สามารถหายได้ เป็นสูตรที่สามารถหาวัตถุดิบได้ง่ายใกล้ๆตัวกันเลย ซึ่งคัดมาให้เลือกใช้กันถึง 3 สูตรด้วยกัน ดังนี้

1.สูตรมะขามเปียกผสมน้ำผึ้งและนมสด สูตรนี้เป็นสูตรเบสิคที่ถือว่าหาวัตถุดิบได้ง่ายมากๆ และแน่นอนว่าต้องมีแทบทุกครัวเรือน โดยวิธีทำก็แสนง่ายแค่นำเนื้อมะขามเปียกมาผสมร่วมกับนมสดและน้ำผึ้ง ก็เป็นอันใช้ได้ ข้อควรระวังคือ ไม่แนะนำให้ใช้เฉพาะมะขามเปียกอย่างเดียวในการพอกหน้า เพราะจะทำให้ใบหน้าเกิดการระคายเคืองได้

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

 

2.สูตรน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง เพียงนำน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำมะนาวในอัตราส่วน 1 ต่อ 3 แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้สัก 10 – 15 นาที แล้วล้างออก ก็เป็นอันใช้ได้ วิธีนี้จะช่วยให้ผิวมีการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกได้ดียิ่งขึ้น

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

3.สูตรว่านหางจระเข้ สูตรนี้หลายคนคงคิดว่าหายากแน่นอน แต่ขอบอกเลยว่าในตอนนี้เซเว่นเองก็มีขายกันแล้วนะ สามารถหาซื้อได้เลย วิธีการก็แสนง่ายแค่นำว่านหางจระเข้นี้มาพอกหน้า แล้วทิ้งไว้สัก  30 นาที แล้วล้างออกก็เป็นอันเสร็จ ที่สำคัญสูตรนี้สามารถทำได้ทุกวันเลย ไม่มีผลอะไรต่อผิวหน้าแน่นอน

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

เพียงการมาส์กหน้าด้วยสูตรพอกหน้าเหล่านี้เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดําก็ไม่ต้องใช้กันเลย เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกอย่างง่ายดายแล้วนั้น ยังสามารถช่วยในเรื่องของการบำรุงให้ผิวมีความชุ่มชื้นสุขภาพดีขึ้นอย่างง่ายๆ และการมาส์กหน้านี้ยังสามารถช่วยปรับสมดุลให้กับใบหน้าให้ใบหน้ามีความพร้อมในการที่จะบำรุงในขั้นตอนอื่นๆต่อไปได้อีกด้วย

แต่การมาร์กหน้านี้ก็มีข้อจำกัดอยู่คือ ในบางสูตรสามารถทำได้นานๆครั้งเท่านั้น เพราะสูตรมาส์กหน้าเหล่านี้บางสูตรก็มีความเป็นกรดผลไม้อยู่ หากทำบ่อยๆอาจมีการระคายเคืองในภายหลังก็ได้ ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการที่จะบำรุงผิวหน้าในทุกวันอาจเลือกใช้เป็นเซรั่มแทนก็ได้ ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ให้ทั้งความสะดวกและประหยัดเวลาไปได้มากเลยทีเดียว ซึ่งเซรั่มที่จะมาแนะนำสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะใช้ตัวไหนดีนั้น

 

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

ก็ขอแนะนำเป็นเซรั่มของแบรนด์ Jellys  ที่มีชื่อว่า เพียวเฟสพาวเวอร์อัพเซรั่ม ซึ่งเป็นเซรั่มที่มีคุณสมบัติที่ดีในเรื่องของการช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น สามารถลดรอยสิว ฝ้ากระ และจุดด่างดำที่เป็นปัญหาอยู่ให้หายได้เป็นอย่างดี เนื้อผลิตภัณฑ์มีความบางเบามาก เมื่อใช้แล้วสามารถซึมซาบลงสู่ชั้นผิวได้เลย ไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะไว้บนใบหน้าแน่นอน อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้มีความสมดุลและเรียบเนียนมากขึ้น ตัวผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยมาก เพราะปราศจากน้ำหอมและพาราเบนที่สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองและอุดตันภายหลังการใช้ ถือเป็นการใช้เซรั่มตัวเดียวที่ครบจบทุกปัญหาริ้วรอยจุดด่างดำบนใบหน้าเลย ไม่ต้องมาพอกหน้าให้เสียเวลาอีกต่อไป ใช้แล้วสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ

สำหรับผู้ที่สนใจเซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดําหรือ เพียวเฟสพาวเวอร์อัพเซรั่มของทางแบรนด์ Jellys  นี้สามารถติดต่อสั่งซื้อหรือสอบถามพูดคุยได้ที่ทางตัวแทนจำหน่าย หรือกับทางเว็บไซท์ของทางแบรนด์ได้เลย มั่นใจได้เลยว่าการใช้เซรั่มนี้จะประหยัดทั้งเวลาและยังทำให้ใบหน้ากลับมาไร้ริ้วรอยกวนใจได้อย่างแน่นอน

 

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา เลือกใช้อย่างไรให้ได้ผลจริง

แนะนำเซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดําใช้แล้วได้ผลดีจริง

อะไรคือเซรั่ม ใช้อย่างไร มีประโยชน์แบบไหนบ้าง

 

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

สครับผิวยี่ห้อไหนดี เผยผิวกระจ่างใสที่มากขึ้น ด้วยการสครับ

สครับผิวยี่ห้อไหนดี ช่วยแนะนำหน่อย ไม่อยากผิวดำอีกต่อไปแล้ว

อยากมีผิวขาวกระจ่างใสใช้ สครับผิวยี่ห้อไหนดี ในยุคนี้การมีผิวที่ขาวกระจ่างใสเป็นสิ่งที่หลายๆคนหมายปองกัน ไม่ว่าจะแต่งเสื้อผ้าแบบไหน สไตล์อะไร ก็ดูดีดูเข้ากันไปหมด ด้วยความที่ผิวขาวผ่องจึงทำให้ดูเป็นเช่นนั้น ถือเป็นสีผิวที่ได้เปรียบกว่าผิวสีอื่นๆมาก การจะให้ได้ผิวขาวกระจ่างใสแบบนั้นมาก็ต้องแลกมาด้วยการบำรุงที่ต้องมากตามไปด้วยเช่นกัน จะปล่อยไปแล้วมีผิวที่ขาวเองคงเป็นไปไม่ได้เพราะผิวมีการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอยู่ตลอดทุกวัน ทำให้เซลล์ส่วนนี้เกิดการสะสมอยู่บนชั้นผิวที่เราเรียกกันว่า ขี้ไคล ดังนั้นการขัดผิวจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยเผยผิวขาวใสให้ขาวกระจ่างขึ้นได้อย่างง่ายๆ  

แต่สิ่งที่ใช้ขัดผิวก็มีมากเหลือเกินเลือกใช้กันไม่ถูกเลยทีเดียว แล้วจะใช้เป็นตัวไหน หรือยี่ห้อไหนถึงจะดีต่อผิว ไม่ทำให้ระคายเคืองและทำให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นไปอย่างง่ายดายกันละ สิ่งนี้คงเป็นปัญหาที่หลายคนสงสัยกันมาก เดี๋ยวเราจะไปไขข้อข้องใจกัน

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

จริงๆแล้วการสครับผิวยี่ห้อไหนดีนั้นเราสามารถเลือกใช้ได้ตามใจเลย ไม่ต้องกังวลว่าผิวจะมีการแพ้หรือระคายเคืองอะไรมาก เพราะชั้นผิวตามร่างกายคนเรานั้นมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นอยู่แล้ว และมีการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วขึ้นมาใหม่อยู่ทุกวัน ดังนั้นการขัดผิวบ่อยๆหรือจะนำอะไรมาขัดนั้นก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อผิวมาก

แต่การจะขัดผิวให้ได้ผลดีและเห็นผลอย่างชัดเจน ก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัสดุสำหรับขัดผิวโดยเฉพาะมาขัด เพื่อให้การขัดเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสกปรกและคราบต่างๆที่สะสมอยู่บนผิวหลุดออกไปได้มากที่สุด ซึ่งการขัดผิวนั้นก็มีสูตรสำหรับการขัดผิวอยู่ เป็นสูตรที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากในระดับหนึ่ง ใช้แล้วสามารถสังเกตผลได้เลยว่าผิวนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มีความขาวกระจ่างใสเนียนละเอียดมากขึ้น ซึ่งสูตรที่นิยมใช้ในการขัดผิวเพื่อเผยผิวสว่างกระจ่างใสนี้ก็มีด้วยกันหลายสูตรมาก

 

แต่สูตรที่สามารถหาวัตถุดิบใกล้ตัวได้ไม่ยากและให้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น มีด้วยกัน 3 สูตร ดังนี้

 

1.สูตรมะขามเปียก แค่สูตรแรกนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่สามารถช่วยตอบโจทย์การตามหาสครับผิวได้แล้ว คือไม่ต้องมียี่ห้อเลยแค่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติรวมกันเป็นสูตรนี้ก็ช่วยได้หลายเรื่องในครั้งเดียว แถมวัตถุดิบก็หาง่ายแสนง่ายเพราะมีอยู่แล้วในครัวเรือนโดยวิธีการทำก็แสนง่ายแค่นำมะขามเปียกมาผสมน้ำเล็กน้อยพอขลุกขลิก แล้วทำการขยำให้เนื้อมะขามเปียกออกมาผสมกับน้ำ หลังจากนั้นนำเนื้อมะขามเปียกและเยื่อมะขามเปียกมาทาลูบๆขัดๆลงบนผิวได้เลย หรืออาจจะพอกทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกก็เป็นอันเสร็จ สูตรนี้ระดับนางงามเองก็ใช้กัน เพราะทำให้ผิวขาวสว่าง ผิวมีความเนียนละเอียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

 

2.สูตรขมิ้น สูตรนี้เป็นสูตรที่ดีมากๆอีกสูตรหนึ่งที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและทำให้ผิวมีความขาวผ่องมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยรักษาชั้นผิวที่เป็นแผลให้หายไวยิ่งขึ้น ซึ่งสูตรนี้อาจใช้เป็นขมิ้นสดหรือขมิ้นแบบผงในการขัดผิวก็ได้แล้วแต่สะดวก โดยถ้าเป็นขมิ้นสดนั้นให้ทำการบดให้ละเอียดก่อน เป็นวิธีที่ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร หากอยากย่นเวลาก็ให้ใช้เป็นขมิ้นผงแทน สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะต้องสครับผิวยี่ห้อไหนดี สามารถเลือกซื้อใช้ได้เลย โดยนำขมิ้นผงนี้ผสมกับน้ำ พอเหลวแล้วนำมาพอกลงบนผิว อาจขัดถูวนๆและพอกทิ้งไว้สัก 15 นาทีแล้วล้างออก เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยเผยผิวใสได้แล้ว

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

 

3.สูตรเบกกิ้งโซดา สูตรนี้เป็นสูตรที่วัตถุดิบก็หาง่ายเช่นกัน โดยหาซื้อเบกกิ้งโซดานี้ได้ตามร้านทำขนม หรือร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าทั่วไป ราคาก็ไม่แพงสามารถจับต้องได้ โดยเบกกิ้งโซดานี้มีข้อดีอย่างหนึ่งคือ ช่วยดีท็อกซ์ผิวทำให้สารตกค้างต่างๆที่อยู่บนผิวลดลงหรือหายไปได้ ซึ่งเป็นสารตัวนี้เป็นตัวเดียวกันกับที่เรานำมาล้างผักนั้นเอง ซึ่งนอกจากจะช่วยสครับผิวทำให้เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วหลุดออกไปได้อย่างง่ายดาย ยังช่วยให้ผิวมีความสะอาดและพร้อมรับการบำรุงได้มากยิ่งขึ้น

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

วิธีการใช้เบกกิ้งโซดานี้ ถ้าอยากให้มีการบำรุงที่มากขึ้น อาจนำมาผสมร่วมกับน้ำมะขามเปียกและนมสดด้วยก็ได้ เพื่อเพิ่มการบำรุงไปในตัวระหว่างการขัดและพอกกผิว โดยนำมาสครับวนๆให้ทั่วตัวแล้วทิ้งไว้สัก 15 – 20 นาทีแล้วล้าง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ ภายหลังการใช้สูตรนี้จะรู้สึกได้เลยว่าผิวมีความนุ่มลื่นกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ทดแทนสครับผิวได้เลยสำหรับผู้ที่หาซื้อผลิตภัณฑ์สครับผิวได้ยาก หรือไม่รู้จะใช้อะไรดี

 

จากทั้ง 3 สูตรสครับผิวนี้ ถือเป็นสูตรที่ดีที่ช่วยเผยผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างได้ผล แม้กระทั่งสาวๆระดับนางงามเองก็ใช้สูตรนี้ในการสครับผิวก่อนการประกวดด้วยเช่นกัน หรือสาวๆที่โดนแสงแดดทำร้ายจนผิวไหม้ก็สามารถใช้สูตรเหล่านี้ได้เช่นกัน เพื่อช่วยให้ผิวมีการผลัดเซลล์ได้เป็นอย่างดีและยังช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้นได้ ข้อดีของการครับผิวนั้น นอกจากจะช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปได้เป็นอย่างดี ยังช่วยในเรื่องของการไหลเวียนเลือดอีกด้วย ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลจากการสครับผิว นอกจากนั้นการสครับผิวนี้ยังช่วยผ่อนคลายความเครียด ความเมื่อยล้าในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี โดยอาจมีการใช้ร่วมกันกับน้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆระหว่างการสครับผิวด้วยก็ได้ จะยิ่งทำให้ผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้น

 

แต่สำหรับใครที่ต้องการขาวได้ไวมากขึ้นและไม่รู้จะใช้สครับผิวยี่ห้อไหนดีนั้น ตอนนี้ก็มีสครับอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้การสครับผิวเป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพียงเปิดกระปุกก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องนำมาผสมกับอะไรทั้งสิ้นและผลลัพธ์ที่ได้ภายหลังจากการใช้ก็ดีอีกด้วย นั่นก็คือ เจลลี่สเนลล์แคนดี้สครับ ซึ่งเป็นสครับของแบรนด์ Jellys  นั่นเอง โดยผลิตภัณฑ์มาในรูปของกระปุกสีชมพูน่ารัก และเนื้อผลิตภัณฑ์ก็มีความน่าใช้ด้วยเช่นกัน

นอกจากจะเป็นสครับแล้วนั้นยังเป็นมาส์กบำรุงผิวไปด้วยในตัว และยังช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไวมากยิ่งขึ้น ทำให้ริ้วรอยจุดด่างดำต่างๆบนร่างกายค่อยๆจางลงและเผยผิวใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม ที่สำคัญสครับตัวนี้มีความอ่อนโยนมาก แม้ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าผิวจะแพ้ ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ เนื้อผลิตภัณฑ์นั้นตอนแรกจะมีลักษณะเป็นก้อนสีชมพูแต่เมื่อใช้จะมีลักษณะเป็นเมือกยืดๆ ซึ่งช่วยให้การสครับผิวในแต่ละครั้งสนุกและไม่น่าเบื่อ ใช้แล้วลืมภาพสครับผิวอย่างที่เคยๆไปเลย

สครับผิวยี่ห้อไหนดี

การเลือกใช้สครับผิวยี่ห้อไหนดีนั้น ก็ให้ผู้ใช้คำนึงถึงความเหมาะสมและงบประมาณของตนด้วย หากสามารถหาวัตถุดิบจากธรรมชาติมาใช้ในการขัดผิวได้ก็ถือเป็นการดีอย่างยิ่งที่จะช่วยลดทุนทรัพย์ลงได้ แต่หากไม่มีเวลาในการที่จะวัตถุดิบจากธรรมชาติเหล่านี้ ก็สามารถเลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์สครับผิวขาวของทางแบรนด์ Jellys ได้เลย ซึ่งก็สามารถตอบโจทย์ในเรื่องการมีผิวขาวสะอาดกระจ่างใสได้เช่นกัน และที่สำคัญปลอดภัยและไม่ระคายเคืองแน่นอน และยังทำให้การสครับผิวในแต่ละครั้งสนุกไม่จำเจอีกด้วย

หน้าเป็นฝ้า

หน้าเป็นฝ้า รักษาได้ไม่ยาก ด้วยการทำ IPL

หน้าเป็นฝ้า หายช้า ไม่รู้จะทำยังไงลอง ทำ IPL ดูก่อนดีไหม

ปัญหาฝ้าจะหมดไป แค่คุณทำ IPL อีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่เพื่อความงามของสาวๆ ที่จะช่วยรักษาฝ้าอย่างรวดเร็วทันใจ แถมยังทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งใครที่ หน้าเป็นฝ้า ก็ลองมาทำ IPL กันดู แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่โดนใจคุณอย่างแน่นอน

การรักษาฝ้าด้วย IPL คืออะไร

การทำ IPL เพื่อรักษาฝ้านั้น ก็จะคล้ายกับการทำเลเซอร์นั่นเอง โดยจะใช้แสงจาก IPL ยิงไปบนผิวหน้าบริเวณที่เป็นฝ้า เพื่อให้ความร้อนเข้าไปทำลายเม็ดสีผิวเมลานิน ซึ่งจะทำให้ฝ้าค่อยๆ จางลงไป จนทำให้ผิวดูเรียบเนียน และสีผิวมีความสม่ำเสมอกันมากขึ้น

หน้าเป็นฝ้า

ต้องทำ IPL กี่ครั้ง

การรักษาฝ้าด้วย IPL ให้ได้ผลดีนั้น จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยให้ทำทุกๆ 2 สัปดาห์ จนกว่าฝ้าจะจางลงอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นจึงเปลี่ยนมาทำทุก 1-2 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้าปรากฎชัดขึ้นมาอีก อย่างไรก็ตามการรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้จะต้องมีค่าใช้จ่ายพอสมควรเช่นกัน ดังนั้นก่อนรักษาก็ลองปรึกษากับหมอที่ทำดูก่อน และประเมินตนเองว่ามีงบประมาณพอที่จะทำ IPL อย่างต่อเนื่องหรือไม่

ทำ IPL แล้วหายขาดหรือเปล่า

ถึงแม้ว่าการทำ IPL จะทำให้ฝ้าจางลงอย่างรวดเร็วและได้ผลดีมาก แต่ก็ไม่ทำให้หายขาด นั่นหมายความว่าหากคุณดูแลตัวเองไม่ดี โอกาสที่ฝ้าจะกลับมาเป็นอีกก็มีสูงมาก ดังนั้นควรดูแลตัวเองและปกป้องผิวหน้าของคุณจากแสงแดดควบคู่กันไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าเป็นฝ้าอีกนั่นเอง

ข้อดีของการทำ IPL

การรักษาฝ้าสามารถทำได้หลายวิธี แต่ทำไมหลายคนจึงเลือกที่จะทำ IPL นั่นก็เพราะวิธีนี้เห็นผลเร็วมาก ที่สำคัญทำแล้วไม่เจ็บ ไม่ต้องทายาชา และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเสร็จ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ สำหรับผลข้างเคียงก็น้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น โดยอาจมีรอยแดงบริเวณที่ทำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจะหายเป็นปกติภายใน 1-2 ชั่วโมง จึงหมดกังวลไปได้เลย นอกจากนี้ก็ยังไม่เคยมีรายงานว่าคนที่ทำ IPL แล้วมีปัญหาตามมาแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาฝ้า ก็ลองใช้วิธีนี้กันดูสิ รับรองได้ผล

หน้าเป็นฝ้า

หน้าเป็นฝ้า รักษาได้ง่ายๆ ด้วยการทำ IPL ซึ่งใครมีปัญหาฝ้าก็ลองมาทำวิธีนี้กันดู แต่ถ้างบน้อย ก็ยังมีวิธีการรักษาฝ้าวิธีอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาทารักษาฝ้า การใช้สูตรรักษาฝ้าจากธรรชาติ หรือการลอกฝ้าด้วยกรด AHA ซึ่งคุณสามารถเลือกวิธีรักษาฝ้าได้ตามต้องการกันเลย

สบู่ใช้แล้วขาว

สบู่ใช้แล้วขาว เลือกอย่างไร จึงจะปลอดภัยต่อผิวพรรณ

สบู่ใช้แล้วขาว ใช้แล้วดี เขามีวิธีเลือกกันยังไงบ้างนะ

ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวขาวนอกจากครีมแล้ว สบู่ก็ช่วยได้เช่นเดียวกัน สำหรับใครที่ใช้ครีมผิวขาวอยู่แล้ว คงจะอยากได้ สบู่ใช้แล้วขาว มาเป็นตัวช่วยเพิ่มเติมด้วย แต่สบู่มันก็มีหลายแบบ หลายสูตร จะเลือกอย่างไรถึงจะปลอดภัยและเหมาะกับสภาพผิว มาดูกันค่ะ

1.สารสกัดบำรุงผิวขาว สบู่ในปัจจุบันมีสูตรหลากหลายมากๆ เช่น สบู่ฆ่าเชื้อ สบู่รักษาสิว สบู่ผิวใส สบู่ผิวขาว สบู่ธรรมดาทั่วไป เป็นต้น ซึ่งจะมีส่วนผสมสำคัญแตกต่างกัน สบู่ใช้แล้วขาวควรมีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใสมากขึ้น เช่น

อาร์บูติน เป็นสารสกัดยอดนิยมและปลอดภัยสุดๆตัวหนึ่ง มักสกัดได้จากผลไม้บางชนิด เช่น มัลเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ เป็นต้น มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเม็ดสีเมลานินบนผิว ช่วยให้ขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่กัดผิว ไม่ทำให้ผิวบาง

กลูต้าไธโอน เป็นอีกส่วนผสมยอดนิยมที่มักถูกใส่ลงไปในสบู่ผิวขาวด้วย เพราะว่าช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดการทำงานของเอนไซม์ไทรโรซีเนส เป็นเอนไซม์ที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดสีผิว แต่สบู่ที่มีส่วนผสมของกลูต้าไธโอนจะช่วยให้ผิวขาวขึ้นอย่างช้าๆ เป็นธรรมชาติ เห็นผลช้ากว่าอาร์บูตินและไม่กัดผิวเช่นเดียวกัน

กรดโคจิก เป็นกรดชนิดหนึ่งที่มักพบได้ในพืชกลุ่มเห็ดรา มีฤทธิ์ช่วยลดการสร้างเซลล์เม็ดสีผิว ช่วยให้ผิวค่อยๆขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ การใส่กรดโคจิกในสบู่ควรใส่แค่ 1-4% จึงจะปลอดภัยต่อผิว นอกจากช่วยในเรื่องผิวขาวแล้ว ยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ยับยั้งการเจริญโตของแบคทีเรีย จึงมีส่วนช่วยในการรักษาสิวนั่นเอง

สบู่ใช้แล้วขาว

 

2.เลือกให้เหมาะกับผิว สำรวจสภาพผิวตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วเลือกใช้สบู่อย่างเหมาะสม ดังนี้

ผิวแห้ง เหมาะสำหรับสบู่ที่มีลักษณะใส เพราะว่าจะมีแค่กลีเซอรีน มอยส์เจอร์ไรเซอร์และสารอื่นๆอีกเล็กน้อย ซึ่งช่วยทำความสะอาดผิวได้ดี หลังล้างไม่ทำให้ผิวแห้งจนเกินไปเพราะไขมันบนผิวไม่ถูกชะล้างออกไปจนหมด ถ้าเลือกสบู่ใสที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกหรือเคเมเลียได้จะดีมาก เพราะน้ำมันสองชนิดนี้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันธรรมชาติบนผิว

ผิวมัน เลือกสบู่ที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกและไม่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพราะว่าผิวมันอยู่แล้ว ยิ่งใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ด้วย อาจอุดตันและเป็นสิวมากกว่าเดิมได้

ผิวแพ้ง่าย ต้องใส่ใจในการเลือกสบู่มากๆ โดยสบู่สำหรับคนผิวแพ้ง่ายต้องไม่มีสารอันตรายต่อผิว ไม่มีน้ำหอมฉุน มีค่า pH. เป็นกลาง ถ้าไม่รู้จะเลือกอย่างไร แนะนำให้ใช้สบู่เด็กอ่อนค่ะ

3.สบู่ต้องใช้กับผิวหน้าได้ ถ้าเน้นในเรื่องหน้าขาว สบู่ที่จะใช้ต้องระบุว่าใช้กับผิวหน้าได้ เพราะผิวบอบบางระคายเคืองง่ายกว่าผิวกาย หากซื้อสบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรงมาใช้ แทนที่จะสวยจะกลายเป็นพังได้ค่ะ

สบู่ใช้แล้วขาว

และนี่ก็เป็นเคล็ดลับง่ายๆในการเลือกซื้อสบู่ใช้แล้วขาวค่ะ เห็นไหมว่าไม่ได้ยากอะไรเลย เพียงแค่ต้องใส่ใจและระมัดระวังเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามปัจจุบันสบู่ผิวขาวผลิตออกมาให้เลือกใช้หลากหลายแบรนด์ ซึ่งบางแบรนด์ก็อาจมีสารอันตรายเป็นส่วนผสมอยู่ ดังนั้นหลีกเลี่ยงสบู่ที่โฆษณาเกินจริง เช่น ขาวไว ขาวถาวร เป็นต้น หรือสบู่ที่ข้อมูลไม่ชัดเจน เนื่องจากไม่มีอะไรมาการันตีเลยว่ามันจะปลอดกับเราจริงหรือเปล่า