กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

หน้าเป็นสิวแต่ไม่เลือกใช้ กันแดดสําหรับคนเป็นสิว จะส่งผลยังไง

กันแดดสำหรับคนเป็นสิว ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาเพื่อผู้ที่มีปัญหาโดยเฉพาะ

เมืองไทยอากาศร้อนจัดขนาดนี้ ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ซึ่งการทาครีมกันแดดในขณะที่สภาพผิวปกติดีจะไม่มีผลอะไรกับใบหน้า แต่ถ้าทาในขณะที่ผิวหน้ากำลังเป็นสิวนี่ก็น่ากังวลใจอยู่ เพราะผิวช่วงนี้จะอ่อนแอและบอบบางมาก หากใช้กันแดดผิดประเภท สิวอาจจะเห่อหนักกว่าเดิมได้ ดังนั้นมาลองดูวิธีการเลือกครีม กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

คนเป็นสิวทากันแดดผิดๆจะเป็นอย่างไร

ครีมกันแดดมักมีลักษณะที่ค่อนข้างเหนียวข้น ยิ่งค่า Spf.สูงยิ่งเข้มข้นมาก ซึ่งถึงแม้จะมีประโยชน์ในเรื่องกันแดด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้รูขุมขนอุดตันจนกลายเป็นสิวตามมาได้ ที่สำคัญมักล้างทำสะอาดให้หมดจดได้ยาก ยิ่งพยายามล้างขัดถูมากเท่าไร ยิ่งกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบมากขึ้น ดังนั้นถ้าเป็นสิวหนักจริงๆ ควรหลีกเลี่ยงการทาครีมกันแดดไปก่อน เพราะผิวช่วงนี้ไวต่อสิ่งเร้ามากๆ อย่างไรก็ตามถ้ามีความจำเป็นต้องทาครีมกันแดดจริงๆ สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

  • เลือกครีมกันแดดสูตรอ่อนโยน เนื้อครีมบางเบา จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันได้ ทาได้แต่ไม่ควรทาบ่อย เน้นการอยู่ในที่ร่มและหลีกเลี่ยงแสงแดดไปก่อนจะดีกว่า
  • เลือกชนิดที่ละลายน้ำได้ เพราะจะทำความสะอาดได้ง่าย ลดโอกาสสิ่งสกปรกหลงเหลือตกค้างอยู่บนใบหน้าและยังอ่อนโยนกว่าสูตรกันน้ำด้วย

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

 

การดูแลผิวในขณะเป็นสิว

นอกเหนือจากการทาครีมกันแดดแล้ว ต้องพยายามหลบแดดด้วย เพราะแสงแดดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เป็นสิวมากขึ้น และยังทำร้ายลึกลงไปถึงเซลล์ผิวชั้นในด้วย เวลาทาครีมพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีสิวอักเสบให้มากที่สุด และล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้านอน อย่าไปซื้อครีมหรือยารักษาสิวมาใช้เอง เพราะมันอาจจะไม่ได้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของทุกคนและผิวในช่วงนี้บอบบางมาก ดังนั้นพยายามอยู่ให้ห่างไกลสารเคมีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วผิวจะค่อยๆขึ้นเอง

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

สรุปได้ว่าถึงแม้ผิวหน้าในช่วงที่เป็นสิวจะอ่อนแอมาก แต่ก็ยังสามารถทาครีมกันแดดได้อยู่ถ้าจำเป็นต้องใช้ เพียงแต่ต้องเลือกกันแดดสําหรับคนเป็นสิวที่มีเนื้อบางเบา อ่อนโยนต่อผิวและล้างออกง่าย จะได้ลดการอุดตันและไม่ทำให้สิวอักเสบเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามควรดูแลผิวในด้านอื่นๆควบคู่ไปด้วย พยายามอย่าอยู่กลางแจ้งนานๆ ล้างหน้าให้สะอาด หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารเคมีเยอะๆ เมื่อผิวได้พักผ่อนมากพอจะช่วยให้มีเวลาซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง ผิวหน้าก็จะกลับมาใสได้อีกครั้ง

 

หน้าใสทําไง

หน้าใสทําไง วิธีทำให้หน้าใสด้วยการดูแลร่างกาย

หน้าใสทําไง แบบง่ายๆ แทบไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่ดูแลตัวเอง

ไม่ว่าจะมีผิวสีอะไร คนเราก็อยากมีผิวที่เนียนใสสุขภาพดีกันทุกคน แต่ทว่ามันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักเพราะด้วยวิถีชีวิตคนปัจจุบันทำให้การดูแลผิวเป็นเรื่องยากขึ้นมาอีกระดับ แต่ว่าเราสามารถทำให้ผิวหน้ากลับมาเนียนใสกิ๊งกันได้เพียงแค่กลับมาดูแลร่างกายเท่านั้น สำหรับใครที่อยากรู้ว่าอยาก หน้าใสทําไง หาคำตอบได้ที่นี่

1.พักผ่อนให้เพียงพอ ข้อนี้สำคัญมาก โดยนอนให้ไว พยายามให้หลับสนิทก่อน 5 ทุ่มเพราะช่วงเที่ยงคืนถึงตีสองจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยชะลอวัยได้ เพราะต่อให้ดูแลร่างกายหนักแค่ไหน แต่ถ้านอนดึกนอนน้อย มันก็อยากที่จะมีผิวหน้าเนียนใส

2.หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำร้ายผิว เช่น การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ การตากแดดโดยไม่ได้ทาครีมกันแดดเป็นระยะเวลานานๆ การไม่ล้างเครื่องสำอางก่อนนอน เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำร้ายผิว ถ้าทำแบบนี้นานๆ ใบหน้าจะเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้

หน้าใสทําไง

3.บำรุงผิวอยู่เสมอ หน้าใสทําไงอีกคำตอบก็คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว เช่นผิวมันก็ใช้แบบที่มีบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ส่วนผิวแห้งก็อาจจะเลือกแบบที่เข้มข้นมากขึ้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว เป็นต้น และก่อนเลือกใช้สิ่งใดให้พิจารณาส่วนผสมอย่างรอบคอบ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีน้อยที่สุด เพื่อลดโอกาสที่ผิวจะแพ้ อย่าลืมทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือออกนอกบ้านเพื่อปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสียูวี

4.ทานอาหารให้ครบถ้วน 5 หมู่ โดยจัดสัดส่วนอย่างเหมาะสม ทานผักผลไม้ให้มากๆเพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน เพราะเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวมาก วิตามินบางชนิดอย่างเช่นวิตามินซี มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี

หน้าใสทําไง

5.ออกกำลังกาย พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี ของเสียจะถูกขับออกผ่านทางเหงื่อ ผิวพรรณจะเปล่งปลั่งดูสุขภาพดี และยังไม่ค่อยเป็นสิวอีกด้วย

6.ดื่มน้ำให้มากๆ การดื่มน้ำจะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิว ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ ผิวจะเด้งดึ๋งอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีเช่นกัน

หน้าใสทําไง

7.พบแพทย์ผิวหนัง เมื่อเกิดอาการผิดปกติอื่นใดกับผิวหน้า อย่าพยายามซื้ออะไรมารักษาหน้าด้วยตัวเอง โดยเฉพาะพวกผลิตภัณฑ์ที่วางขายบนอินเทอร์เน็ต เพราอาจมีส่วนผสมที่ไม่น่าไว้ใจและมันอาจจะทำร้ายผิวหน้าไปมากกว่าเดิมได้

และสำหรับคนที่มีคำถามว่าอยากหน้าใสทําไง นี่เป็นคำตอบที่ดีและรับประกันว่าทำแล้วได้ผลแน่นอน แต่ละวิธีก็แสนจะง่ายง่าย ทำตามได้ทุกคนเพราะแค่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็ทำให้หน้าใสขึ้นมาได้แล้วล่ะค่ะ

หน้าเป็นฝ้า

6 วิธีการรักษา หน้าเป็นฝ้า ด้วยเทคนิคทางการแพทย์

หน้าเป็นฝ้า ใช่ไหม ไม่เป็นไร เครื่องมือทางการแพทย์ช่วยคุณได้

หน้าเป็นฝ้า เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความกลุ้มใจให้กับสาวๆไม่น้อย เพราะว่าเกิดกับผิวหน้าในบริเวณกว้าง สามารถมองเห็นได้ชัดแถมยังรักษาให้หายขาดได้ยากอีก แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากในปัจจุบันทำให้การรักษาหน้าเป็นฝ้าสามารถทำได้ไม่ยากเลย

1.การใช้กรดกำจัดฝ้า (Chemical peeling) เป็นวิธีการที่ใช้กรดมากระตุ้นให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเร็วขึ้น ทำให้เซลล์ผิวใหม่กระจ่างใสกว่าเดิม โดยฝ้าจะจางลง กรดที่ใช้มีหลายชนิด เช่น TCA หรือ AHA เป็นต้นเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง ค่าใช้จ่ายไม่มาก แต่ผลลัพธ์ก็จะเห็นได้ช้าหน่อย ข้อควรระวังคือหลังจากลอกฝ้าด้วยกรดแล้ว ผิวจะไวต่อแสงมาก ดังนั้นไม่ควรทำบ่อยและต้องปกป้องผิวจากแสงแดดให้ดีหลังทำ

หน้าเป็นฝ้า

 

2.การทำไอออนโต (Iontophoresis) คือการใช้เครื่องมือที่มีกระแสไฟฟ้าแบบอ่อนๆมาช่วยผลักดันยาหรือสกินแคร์ให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวมากขึ้น จะช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น โดยยาที่นิยมใช้มักจะมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ เช่น กรดวิตามินซี กรดโคจิก อาร์บูติน เป็นต้น โดยมักจะมาในรูปแบบของเจล เพราะจะซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย วิธีนี้อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองผิวอยู่บ้าง แต่ก็นับว่าได้ผลดี แค่ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งฝ้าก็จะดูจางลงแล้ว

หน้าเป็นฝ้า

 

3.การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Microdermabrasion) เป็นเครื่องมือที่จะกรอผิวหนังชั้นนอกออกไป จึงช่วยกำจัดฝ้าออกไปได้ด้วย แต่ต้องระวังในเรื่องระดับความแรงของเครื่องมือ เพราะจะทำให้ผิวเกิดระคายเคืองได้

หน้าเป็นฝ้า

 

4.IPL (Intense Pulsed Light) เป็นวิธีการที่ใช้แสงยิงลงไปที่ผิวหน้าบริเวณที่เป็นฝ้า ความร้อนจากแสงจะไปทำลายเม็ดสีเมลานิน ทำให้ฝ้าดูจางลง เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดหรือระคายเคืองเหมือนวิธีอื่น หลังทำอาจจะแค่เกิดรอยแดงเล็กๆน้อยๆเท่านั้นแต่ก็จะจางลงในเวลาไม่นาน การรักษาด้วยวิธีนี้ควรทำติดต่อกันเดือนละ 1-2 ครั้ง ช่วงแรกๆตรงบริเวณฝ้าจะตกสะเก็ดบ้าง แต่จะค่อยๆหลุดไปเอง

หน้าเป็นฝ้า

 

5.Fraxel เป็นวิธีการเลเซอร์แบบหนึ่งที่จะใช้คลื่นความร้อนยิงลงไปที่ผิว เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าถูกผลัดออกไปไวยิ่งขึ้น จึงทำให้บริเวณที่เป็นฝ้าจางลงตามไปด้วย เป็นอีกวิธีที่มีความปลอดภัย ได้ผลดีแต่ต้องระวังนิดหน่อยเพราะผิวจะบางและไวต่อแดดมาก

หน้าเป็นฝ้า

 

6.Yag เป็นเลเซอร์อีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก มีหลักการคล้ายกับการเลเซอร์แบบ Fraxel แต่เป็นผิวจะเป็นสะเก็ดน้อยกว่า บางคนอาจไม่มีสะเก็ดเลย อย่างไรก็ตามผิวก็ยังไวต่อแสงแดดมากอยู่ดี ดังนั้นจึงต้องทาครีมกันแดดไปตลอดการรักษา

หน้าเป็นฝ้า

จะเห็นได้ว่าวิธีการรักษาหน้าเป็นฝ้าด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์นั้นมีหลายวิธี ซึ่งก็สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามวิธีการรักษาที่ดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้เป็นฝ้ามาตั้งแต่แรก ดังนั้นถ้าไม่อยากต้องมาเสียเงินมากมายให้กับการรักษาฝ้าก็ควรเริ่มดูแลผิวพรรณของตัวเองตั้งแต่วันนี้ค่ะ

ครีมลดจุดด่างดำ

ครีมลดจุดด่างดำ เลือกอย่างไรที่ใช้แล้วช่วยคืนขาว และปลอดภัย

ครีมลดจุดด่างดำ แบบไหนที่ช่วยเพิ่มความใส้ให้กับผิวหน้า และไม่มีอันตราย

ปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์และความงามเกิดขึ้นมากมาย ที่นำมาใช้ลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้า ไม่ว่าจะการเลเซอร์ การทำไมโครเดอร์มาหรือไอพีแอล เป็นต้น ซึ่งมันกำจัดริ้วรอยบนใบหน้าออกได้จริง ช่วยให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้น แต่ถ้าใครไม่อยากเจ็บตัวและเสียเงินเยอะๆ อีกทางเลือกที่น่าสนใจก็คือการใช้ครีมลดจุดด่างดำนั่นเอง ซึ่งจะเลือกและใช้อย่างไรให้ได้ผลดี มาดูกันค่ะ

1.เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีอย.รองรับ มีเลขจดแจ้งชัดเจน รายละเอียดบนฉลากครบถ้วนทั้งที่มาที่ไปผู้ผลิต ประโยชน์ คำเตือน รวมไปถึงวันผลิตและวันหมดอายุด้วย

2.ดูส่วนผสม ครีมในกลุ่มนี้มักมีส่วนผสมหลากหลายชนิด เช่น กรดโคจิค กรดไกลโคลิก กรดซิกตริก กรดทาร์ทาริก แลคติก เรตินอยด์หรืออาร์บูตินเป็นต้น และจะให้ดีก็ต้องมีสารอัลฟ่าไฮดรอกซีที่มีความเข้มข้นต่ำกว่า 10% ผสมอยู่ด้วยจึงจะใช้ได้ผลดีและมีผลข้างเคียงกับผิวน้อยที่สุด ดังนั้นก่อนจะซื้ออ่านฉลากให้ดีค่ะ

3.ทดสอบก่อน ทาครีมก่อน 24 ชั่วโมงเพื่อทดสอบอาการแพ้ หากไม่มีอาการผิดปกติใดๆค่อยนำมาใช้กับผิวหน้า

ครีมลดจุดด่างดำ

4.ใช้แบบความเข้มข้นน้อย ครีมลดจุดด่างดำบางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของเรตินอยด์อยู่ ซึ่งจะมีความเข้มข้นอยู่หลายระดับ หากไม่เคยใช้มาก่อนควรเลือกที่มีความเข้มข้นต่ำ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้รู้สึกระคายเคืองได้และควรทาแล้วนอนเลย เพราะผิวจะไวต่อแสงมาก หากโดนแสงไฟหรือแดดอาจทำให้ผิวไหม้ได้ หรือถ้าใครผิวแพ้ง่ายแนะนำให้ใช้แบบเจล จะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า

 

การดูแลตัวเอง

หากต้องการจัดการกับจุดด่างดำอย่างเด็ดขาด จะต้องดูแลตัวเองในด้านอื่นร่วมด้วย เพราะถึงครีมจะดีจะแพงแค่ไหน มันก็ไม่ช่วยได้ 100% และนี่เป็นสิ่งที่ต้องทำหากอยากได้ใบหน้าขาวใสกลับคืนมา

1.ทาครีมกันแดด เลือกค่า SPF ที่เหมาะสมกับลักษณะกิจกรรมในชีวิตประจำวัน หมั่นทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดโอกาสที่ผิวจะถูกแสงแดดทำร้าย

2.ทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่าลืมทานผักและผลไม้เยอะๆเพราะมีวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวหลายชนิด ช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง

3.ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ จะทำให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่งสดใส ดูมีเลือดฝาด

4.บำรุงผิว ใส่ใจความสะอาดของผิวหน้า มาร์คหน้าหรือทาครีมบำรุงผิวอยู่เสมอ เพื่อเติมสารอาหารผิวให้กับใบหน้า ทำให้หน้ากลับมาขาวกระจ่างใสไวยิ่งขึ้น

ครีมลดจุดด่างดำ

ครีมลดจุดด่างดำบนใบหน้านั้นสามารถช่วยให้ผิวกลับมาดีขึ้นได้จริง ทั้งนี้ต้องดูแลตัวเองด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยจึงจะได้ผลดีที่สุด ที่สำคัญอย่าใจร้อน อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาต่างๆที่ว่าใช้แล้วทำให้ขาวเร็วขาวไวในเวลาไม่นาน เพราะนั่นอาจเป็นครีมที่มีสารเคมีอันตรายผสมอยู่ ดังนั้นต้องศึกษาและตัดสินใจให้ดีก่อนจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ใดๆมาใช้ค่ะ

ครีมลดจุดด่างดำ

ครีมลดจุดด่างดำ ใช้แล้วแต่ไม่จางลงสักที เป็นเพราะอะไร

ครีมลดจุดด่างดำ ไม่ค่อยได้ผล สาเหตุเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง

คุณกำลังเจอกับปัญหานี้อยู่หรือไม่ใช้ครีมลดจุดด่างดำแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ซึ่งนั่นอาจมีสาเหตุหลายอย่างที่ทำให้จุดด่างดำบนใบหน้าของคุณไม่จางลงสักที ดังนั้นมาเช็กกันดูดีกว่าว่า ปัญหาที่คุณกำลังเจออยู่นั้นเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือเปล่า

1.ใช้ครีมไม่มีคุณภาพ

ครีมลดเลือนจุดด่างดำมีหลายยี่ห้อ หากเลือกครีมที่ไม่มีคุณภาพก็จะทำให้ใช้แล้วไม่ได้ผล ทั้งยังอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวตามมาอีกด้วย ดังนั้นควรเลือกครีมที่มีคุณภาพสักนิดและหากผ่านการทดสอบมาแล้วว่าได้ผลจริงก็จะดีมาก

2.ทาครีมไม่ต่อเนื่อง

การรักษาจุดด่างดำไม่ว่าวิธีไหนก็ตามจะต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ดังนั้นหากคุณทาครีมลดจุดด่างดำไม่ต่อเนื่อง ทาบ้าง ลืมบ้าง หรือทาไม่ถูกวิธีก็จะทำให้ใช้แล้วไม่ได้ผล

ครีมลดจุดด่างดำ

3.เผชิญแสงแดดร้อนจัดเป็นประจำ

แสงแดดเป็นตัวการหนึ่งที่จะทำให้จุดด่างดำมีสีเข้มขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทาครีมรักษาจุดด่างดำหรือพยายามลดรอยด่างดำให้หมดไปด้วยวิธีไหนก็ตาม หากยังต้องเผชิญกับแสงแดดที่ร้อนจัดเป็นประจำ จุดด่างดำบนใบหน้าก็คงจะไม่จางลงอย่างแน่นอน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออาจทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านก็ได้

4.ผิวขาดความชุ่มชื้น

หลายคนอาจคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกัน แต่การที่ผิวขาดความชุ่มชื้นนี่แหละเป็นตัวการสำคัญเลยที่ทำให้จุดด่างดำไม่จางลงไปสักที แม้ว่าคุณจะใช้ครีมรักษาจุดด่างดำที่มีคุณภาพมากแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นควรดูแลผิวให้มีความชุ่มชื้นควบคู่กับการรักษาจุดด่างดำไปด้วย โดยการดื่มน้ำให้เยอะๆ ทามอยเจอไรเซอร์ และหลีกเลี่ยงตัวการที่ทำให้ผิวขาดน้ำมากกว่าเดิม เพียงแค่นี้ก็จะรักษาจุดด่างดำได้ง่ายขึ้นแล้ว

ครีมลดจุดด่างดำ

5.พึ่งเริ่มรักษาได้ไม่นาน

ต้องบอกเลยว่าจุดด่างดำก็เหมือนกับรอยสิวที่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานมาก ดังนั้นหากคุณพึ่งเริ่มต้นรักษาได้ไม่นานก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมจุดด่างดำจึงไม่จางลงสักที เพราะฉะนั้นควรใจเย็นและรอดูผลไปก่อน ซึ่งบางคนอาจใช้เวลานาน 3-6 เดือนเลยทีเดียวกว่าจะเห็นผลได้รู้สาเหตุที่ครีมลดจุดด่างดำแล้วไม่จางลงสักทีกันแล้ว ก็ลองแก้ไขสาเหตุเหล่านี้กันดู แล้วจะทำให้คุณรักษาจุดด่างดำได้ง่ายขึ้น และอย่าลืมเลือกครีมรักษาจุดด่างดำที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยต่อผิวกันด้วย จะได้ไม่มีปัญหาตามมาอีกนั่นเอง