โลชั่นยี่ห้อไหนดี

โลชั่นยี่ห้อไหนดี แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำได้อย่างตรงจุด

อยากมีผิวขาวกระจ่างใส เลือกใช้โลชั่นยี่ห้อไหนดี

การมีผิวเรียบเนียน สีผิวสวยสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ใครก็อยากได้ แต่ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆหากปราศจากการดูแลที่เหมาะสม อีกทั้งประเทศไทยยังเป็นเมืองร้อน ผิวจึงหมองคล้ำง่ายลงไปอีก ดังนั้นหากอยากมีผิวสวยๆ จึงต้องใส่ใจดูแลมากเป็นพิเศษ แต่ควรจะต้องทำอะไรบ้าง หากต้องใช้โลชั่นควรใช้โลชั่นยี่ห้อไหนดี มาหาคำตอบกันได้ที่นี่

 

ผิวหมองคล้ำ สาเหตุ

ปัญหาผิวหมองคล้ำเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แต่โดยมากแล้วจะเป็นปัจจัยภายนอก เช่น

1.แสงแดด นับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เพราะในแสงแดดมีรังสียูวี 2 ชนิดที่สามารถทำร้ายได้ผิวชั้นนอกและชั้นใน เมื่อตากแดดผิวหนังจะสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้นมาเพื่อไม่ให้แสงแดดทำร้ายผิว แม้จะทำให้ผิวหมองคล้ำลง แต่นั่นนับเป็นอีกหนึ่งกลไกสำหรับปกป้องร่างกาย

2.มลภาวะ เช่น สารเคมี ฝุ่น ควันจากท่อไอเสีย เป็นต้น มลภาวะเหล่านี้หากตกค้างบนผิวหนัง จะทำให้ผิวแห้งเสียและหมองคล้ำลงได้เช่นเดียวกัน

3.สภาพอากาศ หากอากาศแห้ง ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายและเมื่อผิวแห้งบ่อยๆ ผิวจะดูโทรม หมองคล้ำไม่สดใส ยิ่งถ้าต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อากาศทั้งแห้งและเย็น เช่น การนั่งทำงานในห้องปรับอากาศ ผิวจะยิ่งถูกทำร้ายได้ง่ายกว่าเดิม

4.สารเสพติด มักเต็มไปด้วยสารพิษมากมาย ซึ่งสารเหล่านี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายก็จะแพร่กระจายไปตามหลอดเลือด หลังจากนั้นก็จะเริ่มทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อทั่วทั้งร่างกายรวมทั้งเซลล์ผิวหนังด้วย

5.ปัจจัยอื่นๆ เช่น การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ความเครียด ดื่มน้ำน้อย นอนไม่พอฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้ก็ส่งผลกระทบต่อผิวหรรณเช่นเดียวกัน

โลชั่นยี่ห้อไหนดี

 

ผิวหมองคล้ำ การดูแล

การฟื้นฟูผิวหมองคล้ำนั้นทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นเอง ก่อนอื่นต้องเริ่มจากหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เช่น ทาครีมกันแดดเป็นประจำ พยายามหลบแดดที่แรงเกินไป ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว พักผ่อนให้เพียงพอ งดเว้นการเสพสิ่งเสพติดทุกประเภท พยายามทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด ที่สำคัญอย่าลืมทาโลชั่นอย่างสม่ำเสมอเพื่อบำรุงและปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้าย ว่าแต่ควรใช้โลชั่นยี่ห้อไหนดี จึงจะได้รับทั้งการบำรุงและปกป้องไปพร้อมกัน?

โลชั่นยี่ห้อไหนดี

สำหรับคำถามที่ว่าควรใช้โลชั่นยี่ห้อไหนดี อยากให้ทุกคนมาลองเปิดใจไปกับ “Pure Lotion” สุดยอดโลชั่นที่อัดแน่นไปด้วยอาหารผิวมากมาย ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง สว่างกระจ่างใส ทั้งยังมาพร้อมกับสารกันแดด sfp60 ความเข้มข้นจัดเต็มขนาดนี้ จะทำกิจกรรมหนักแค่ไหนหรือตากแดดแรงมากเพียงใดก็ไม่หวั่น รับรองว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์แน่นอน

คอลลาเจนญี่ปุ่นตัวไหนดี

คอลลาเจนได้จากอาหารชนิดใด และมีประโยชน์ยังไง

แนะนำอาหารที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่ายกาย เพื่อให้ผิวดูเต่งตึง ดูเรียบเนียน

คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามเมื่ออายุของเราเพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่กระชับเต่งตึงเหมือนเมื่อก่อน เราจึงต้องสรรหาอาหารเสริมคอลลาเจนญี่ปุ่น ตัวไหนดีมารับประทาน รวมทั้งอาหารตามหลักโภชนาการทั่วไป ที่จะมาช่วยทำให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนเพิ่มขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้น ไปอ่านกันเลยค่ะ

 

อาหารที่ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน

1.ปลาทะเล ในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทูหรือปลาแมคเคอเรลนั้น อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนสำคัญในกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง และยังมีโปรตีนที่เข้าไปช่วยซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ที่สึกหรออีกด้วย

2.ไข่ ไข่คือศูนย์รวมของสารอาหารชนิดต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะในไข่แดงที่มีทั้งโปรตีน แร่ธาตุ วิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังมีคอลลาเจนจากธรรมชาติที่ช่วยเสริมสร้างผิวหนังให้แข็งแรง ไม่หย่อนคล้อยได้ง่าย

3.ถั่วและธัญพืช ถั่วและธัญพืชอุดมไปด้วยสังกะสีและกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งมีส่วนช่วยในการเร่งผลิตคอลลาเจน และกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวหนังในชั้นเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ มีความยืดหยุ่น นอกจากนั้นยังป้องกันการเกิดสิวและริ้วรอยอีกด้วย

คอลลาเจนญี่ปุ่นตัวไหนดี

4.ผักใบเขียว นอกจากคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในผักใบเขียว ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายแล้ว ผักใบเขียวยังมีคอลลาเจนที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้แข็งแรง ยืดหยุ่น และกระชับ

5.อะโวคาโด เป็นอีกหนึ่งอย่างที่อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารครบครัน ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น ต่อต้านสิวและริ้วรอย ทั้งยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย

6.ดาร์กช็อคโกแลต ดาร์กช็อคโกแลตที่มีรสขมและปราศจากน้ำตาลนั้น มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย นอกจากจะช่วยทำให้อารมณ์ดีและผ่อนคลายแล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมในการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย

7.แตงกวา นอกจากแตงกวาจะเป็นตัวช่วยบำรุงผิวชั้นดีแล้ว โดยสามารถลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ให้ผิวมีความชุ่มชื้น ลดการอุดตันในรูขุมขน แตงกวายังมีธาตุกำมะถันที่มีส่วนในการสร้างและผลิตคอลลาเจนในร่างกาย

8.แครอท นอกจากแครอทจะอุดมไปด้วยวิตามินเอแล้ว ยังมีส่วนในการควบคุมการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันการสลายตัวของเส้นใยอีลาสตินและคอลลาเจนในร่างกาย

9.กะหล่ำปลี เป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่เป็นแหล่งรวมของสารอาหาร โดยมีวิตามินบี โฟเลท ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมงกานีสแล้ว ยังมีลูตินซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนในการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย

10.วิตามินซี ผักผลไม้ที่มีวิตามินสูง ซึ่งได้แก่ ส้ม มะนาว มะเขือเทศ ฝรั่งนั้น มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน ทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายอีกด้วย

กล่าวถึงอาหารที่ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจนกันไปแล้ว เชื่อว่าคงจะหามารับประทานกันไม่ยากเกินไปนะคะ แต่ถ้าไม่สะดวกเราก็มีคอลลาเจน ยี่ห้อไหนดีที่สุดมาแนะนำกันท้ายบทความค่ะ ทีนี้เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าคอลลาเจนมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

 

ประโยชน์ของคอลลาเจน

  1. ทำให้ผิวหนัง เล็บ และเส้นผมแข็งแรง มีสุขภาพดี
  2. ทำให้ผิวชุ่มชื่น และป้องกันการสูญเสียน้ำ
  3. ลดเลือดริ้วรอย ทำให้ผิวหนังเต่งตึง กระชับขึ้น
  4. ลดการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระตามผิวหนัง
  5. ช่วยรักษาและลดการอับเสบของสิว
  6. ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย
  7. ช่วยบำรุงและฟื้นฟูข้อต่อกระดูก
  8. ลดกระบวนการสลายตัวของแคลเซียม
  9. กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย

เรียกได้ว่าประโยชน์ของคอลลาเจนที่มีต่อร่างกายนั้นมีมากมายทีเดียวค่ะ ซึ่งสำหรับใครที่ไม่มีเวลาเตรียมหรือกำลังมองหาว่าคอลลาเจนญี่ปุ่นตัวไหนดี เราขอแนะนำเป็นของแบรนด์ JELLYS ยากุรุโตะ คอลลาเจน เป็นคอลลาเจนที่นำเข้าโดยตรงมาจากญี่ปุ่นแท้ 100% ที่จะมาช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเพิ่มความเรียบเนียน เต่งตึง กระชับ เติมร่องลึก ลดเลือนริ้วรอยไปในตัว นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมจากนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต ช่วยให้การดูดซึมสารอาหารมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และส่งเสริมระบบการย่อยอาหาร รวมทั้งการขับถ่ายอีกด้วย

คอลลาเจนญี่ปุ่นตัวไหนดี

ที่สำคัญยังมีสารสกัดอะเซโรล่าเชอร์รี่และส้มสีแดง ที่อุดมด้วยวิตามินซีจากธรรมชาติ ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สดใส สุขภาพดี ปกป้องผิวจากแสงแดด ชะลอการเกิดริ้วรอย ทั้งยังช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจนและทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เท่านั้นยังไม่พอเรายังมีโคเอนไซม์ คิวเท็น ที่มีความจำเป็นต่อกระบวนการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอและยับยั้งการเกิดริ้วรอย และยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและผิวอีกหลายตัว เรียกได้ว่าได้ทั้งผิวสวยและสุภาพที่ดีไปในคราวเดียวกันเลยค่ะ

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดำ

ความแตกต่างระหว่างครีมกับเซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดำ

แนวทางการรักษารอยแผลและจุดด่างดำเป็นจากสิว

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเข้าใจดีว่าปัญหารอยแผลเป็นจากสิวนั้นรบกวนจิตใจมากพอสมควร ถึงแม้จะไม่เจ็บปวดเหมือนตอนเป็นสิว แต่รอยด่างดำที่สิวตัวร้ายทิ้งเอาไว้ก็ส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิต แต่ถ้าไม่อยากกังวลกับรอยสิวอีกต่อไป เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดำสามารถช่วยทุกคนได้ แต่ว่าทำไมต้องเซรั่ม? แล้วต้องดูแลรักษาผิวหน้าอย่างไร รอยสิวจึงจะหายไว มาหาคำตอบกัน

 

เซรั่มต่างจากครีมอย่างไร

สกินแคร์บำรุงผิวหน้านั้นมีเนื้อผลิตภัณฑ์หลายลักษณะ เช่น ครีม เจล เซรั่ม เป็นต้น ซึ่งเนื้อแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันตั้งแต่กระบวนการผลิตจนไปถึงคุณสมบัติและความยากง่ายและการซึมซาบ สกินแคร์เนื้อครีมนั้นเกิดจากการผสมน้ำเข้ากับน้ำมัน ทำให้ครีมมีความเหนียวโดยจะเหนียวมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสัดส่วนของน้ำมัน ผลคือครีมจะซึมซาบได้ช้าและซึมได้เฉพาะผิวชั้นนอกเท่านั้น แต่ว่าความโดดเด่นจะอยู่ตรงที่การให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและผิวธรรมดา แต่อาจไม่เหมาะกับคนผิวมันมากนัก เพราะจะง่ายต่อการอุดตันและทำให้ผิวมันกว่าเดิมได้

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดำ

ส่วนเซรั่มจะมีเนื้อที่บางเบาคล้ายน้ำ อุดมไปด้วยสารอาหารผิวที่เข้มข้นและมีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ซึมซาบได้ง่ายและรวดเร็วกว่า สามารถซึมลึกเข้าไปบำรุงถึงชั้นโครงสร้างผิว นอกจากนี้เซรั่มยังมีประสิทธิภาพการบำรุงสูงและเร็วกว่าครีม เพราะฉะนั้นใช้แล้วจะเห็นผลเร็วกว่าใช้ครีมเพียงอย่างเดียว

 

แนวทางการรักษารอยสิวจุดด่างดำ

สิวเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้กับทุกคน เพราะในบางครั้งถึงแม้จะรักษาจนหายแล้วแต่สิวก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ให้ดูแล้วช้ำใจเล่น ซึ่งบางคนมีรอยสิวเยอะก็ต้องคอยแต่งหน้าหนาๆเพื่อปกปิด ผลคืออาจะทำให้เป็นสิวซ้ำอีกแล้วก็ทิ้งรอยอีกวนเวียนซ้ำเรื่อย จะเปลือยหน้าสดออกจากบ้านบ้างก็ไม่กล้า อยากจะบอกว่ารอยสิวโดยเฉพาะรอยดำรอยแดง(ไม่ใช่รอยหลุมสิว)นั้นสามารถรักษาได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องมีวินัยและความอดทนเท่านั้น

ใครที่ประสบกับปัญหารอยสิวจุดด่างดำ ก่อนอื่นแนะนำให้สครับหน้าด้วยสครับสูตรอ่อนโยนสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิว แล้วใช้เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดำโดยเฉพาะเป็นประจำทุกวัน ที่ต้องเป็นเซรั่มเพราะจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องรูขุมขนอุดตัน เซรั่มที่ใช้จะต้องมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวและบำรุงผิวไปด้วยในตัว จะช่วยให้รอยแผลเป็นจากสิวจางเร็วขึ้น ส่วนที่เหลือบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ตามปกติและอย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำ สำหรับเรื่องการแต่งหน้า หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและอุดตันผิวน้อยที่สุด เมื่อถึงเวลาต้องพักผิวก็ต้องล้างหน้าให้สะอาดหมดจดเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับกับการบำรุงในครั้งต่อไป หากปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าปัญหานี้จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดำ

อันที่จริงแล้วการรักษารอยแผลเป็นจากสิวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นเอง ใครที่อยากได้ตัวช่วยดีในการช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นก็อย่าลืมไปซื้อเซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดำมาใช้กันดูได้ แต่สำหรับใครที่รอยแผลเป็นมีลักษณะเป็นหลุมลึกไม่ใช่แค่รอยดำรอยแดง การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติอาจไม่ได้ผลเท่าใดนัก แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังจะได้รับการรักษาที่ตอบโจทย์มากกว่า

สบู่ที่ทําให้ขาว

สบู่ที่ทําให้ขาวใช้ได้ผลจริงหรือไม่ เรามีคำตอบมาให้คุณ

ถ้าอยากผิวขาวอย่างปลอดภัย เลือกสบู่ที่มาจากธรรมชาติ ปราศจากสารอันตราย

ปัจจุบันนี้วิธีการดูแลผิวพรรณให้ขาวใสมากขึ้นนั้นมีอยู่มากมาย มีตั้งแต่การบำรุงผิวธรรมดาไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ สบู่ที่ทําให้ขาวก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่พบเห็นกันได้อยู่บ่อยๆ ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าแค่ฟอกแล้วล้างออกในเวลาเพียงไม่กี่นาทีจะทำให้ผิวขาวขึ้นได้จริงหรือ? สบู่บางยี่ห้อถึงกับโฆษณาว่าช่วยให้ผิวขาวขึ้นเร่งด่วนใน 3-7 วันเท่านั้น แต่นั่นเป็นความจริงหรือไม่ มาหาคำตอบกัน

สบู่ที่ทําให้ขาว

สบู่ผิวขาวนั้นมักจะมีส่วนผสมของสารที่ช่วยให้ผิวขาว ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งแบบปลอดภัยและปลอดภัย สำหรับส่วนผสมที่ปลอดภัยใช้กันอย่างทั่วไปก็มีอยู่หลายชนิด เช่น กลูต้าไธโอน วิตามินซี วิตามินอี กรดผลไม้ อัลฟ่า-อาร์บูติน เป็นต้น หากสบู่ที่สัดส่วนของสารเหล่านี้ในปริมาณที่เหมาะสม มีกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาแล้วเรียบร้อย ก็ย่อมเป็นสบู่ที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัย ส่วนผลลัพธ์นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล หลายคนใช้แล้วผิวขาวขึ้นได้แต่จะอยู่ในลักษณะที่ค่อยๆขาวขึ้น ไม่ใช่ขาวอย่างรวดเร็ว บางคนใช้แล้วอาจไม่ได้ผลเพราะพันธุกรรมเป็นคนผิวคล้ำหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยๆ ก็อาจจะไม่เห็นผลเท่าใดนัก อีกประการหนึ่งคือการใช้สบู่แค่ฟอกแล้วล้างออก การบำรุงย่อมไม่เท่ากับการทาครีมบำรุงผิวหรือทานอาหารเสริมอย่างแน่นอน

 

อันตรายจากสบู่ผิวขาวที่ไม่ได้มาตรฐาน

นอกจากส่วนผสมปลอดภัยดังกล่าวข้างต้น ยังมีสบู่ผิวขาวอันตรายมากที่ใส่สารอันตรายลงไป เช่น ปรอท ใส่เพื่อช่วยเร่งให้ผิวขาวอย่างรวดเร็ว แต่ส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อร่างกายเพราะปรอทสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง หากได้รับในปริมาณมาก ระบบประสาทและอวัยวะภายในจะถูกทำลายได้

สบู่ที่ทําให้ขาว

สรุปคือสบู่ที่ทําให้ผิวขาวจะใช้ได้ผลหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลรวมไปถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ หากใช้สบู่ผิวขาวแต่ยังตากแดดแรงโดยไม่ทาครีมกันแดด สบู่ก็ย่อมไม่ช่วยอะไร เพราะฉะนั้นหากอยากมีผิวสวยใสจะต้องดูแลผิวหลายๆวิธีควบคู่กันไป ถ้าต้องการซื้อสบู่ผิวขาวมาใช้ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก อย่าหลงเชื่อโฆษณาเกินจริงเพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ใดๆที่ทำให้ผิวขาวด่วนได้อย่างปลอดภัยใน 3-7 วัน แต่กับ “Pure Soap” เราคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก สบู่ของเราปราศจากสารอันตราย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ อาบสะอาด ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ไม่ทำร้ายผิว ถ้ากำลังมองหาสบู่ดีๆกันอยู่ ลองใช้ Pure Soap กันดูนะคะ