สบู่ที่ทําให้ขาว

ทำความรู้จัก 3 สารเคมีอันตรายยอดนิยมที่พบในสบู่ที่ทําให้ขาว

เลือกสบู่ที่ทําให้ขาวอย่างปลอดภัย ควรเลี่ยงสารอันตรายเหล่านี้

ผลิตภัณฑ์ผิวขาวทุกประเภททุกยี่ห้อจะต้องมีส่วนผสมหนึ่งที่เรียกกันว่า “ไวท์เทนนิ่ง” หรือสารที่ช่วยปรับผิวขาว สารนี้มีทั้งแบบที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยและใช้แล้วเป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งผลิตภัณฑ์บางตัวไม่ว่าจะเป็นครีมหรือสบู่ที่ทําให้ขาวนั้นถูกผู้ประกอบการแอบผสมสารอันตรายลงไปเพื่อหวังผลให้ใช้แล้วจะได้ขาวเร็ว ขาวไว แต่ก็จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกายในระยะยาวเช่นกัน สารกลุ่มนี้มีอะไรบ้าง มาสำรวจดูกัน

สบู่ที่ทําให้ขาว

ปรอท (Mercury) หนึ่งในสารอันตรายที่พบบ่อยในครีมและสบู่ที่ทําให้ขาว เป็นสารต้องห้ามใช้ตามประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข ปรอทมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ทำให้ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินน้อยลง สีผิวจึงขาวขึ้น ผลิตภัณฑ์ผิวขาวผสมปรอททำให้ผิวขาวขึ้นจริงแต่มีผลข้างเคียงมากมาย ผิวอาจแห้งลอก ด่างขาวเป็นจุด เป็นฝ้าดำถาวร นอกจากผิวพรรณแล้วปรอทยังส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายใน ทำให้ตับไตอักเสบ โลหิตจาง ทางเดินปัสสาสะอักเสบ อาจแพ้ปรอทรุนแรงอาจตับวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตได้

สเตียรอยด์ (Steroid) เป็นสารเคมีที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่การนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ผิวขาวมักจะไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างถูกต้อง ซึ่งสเตียรอยด์หากใช้กันแบบผิดๆถึงแม้ผิวจะขาวขึ้นจริง แต่ผิวจะบางมากจนเห็นเส้นเลือด ผิวแดงและไวต่อแดด แสบผิวได้ง่าย เกิดผดผื่นหรือสิวที่เรียกว่าสิวสเตียรอยด์ หากใช้ไปนานๆจะมีอาการติดสเตียรอย์ หากเลิกใช้แบบกะทันหันผิวมักจะพังอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ จะต้องใช้ภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์เท่านั้น

ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับปรอท โดยจะไปลดการผลิตเม็ดสีผิว ผิวจะขาวขึ้น สิว ฝ้าจางลงได้ ส่วนผลข้างเคียงที่พบบ่อยได้แก่ ผิวแดงเป็นตุ่ม แสบร้อน ผิวด่างดำเป็นปื้นเหมือนฝ้า หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง ไฮโดรควิโนนเคยเป็นสารที่ถูกนำมาผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แต่ภายหลังพบว่าสารนี้มีผลเสียมากกว่าผลดีจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสารที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางทั่วไป เช่นกัน ยกเว้นผลิตภัณฑ์บางตัวที่ต้องใช้ภายใต้การดูแลจากแพทย์

สบู่ที่ทําให้ขาว

สำหรับใครที่ต้องการใช้ครีมหรือสบู่ที่ทําให้ผิวขาวแต่กังวลเรื่องความปลอดภัย ขอบอกว่าการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์อันตรายเหล่านี้สามารถทำได้ไม่ยาก ก่อนอื่นต้องไม่ซื้อเพราะโฆษณาชวนเชื่อ ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีข้อมูลชัดเจนทั้งในเรื่องของส่วนผสม รายละเอียดการผลิต ที่ตั้งของแหล่งผลิต การรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ หากซื้อมาแล้วควรทดสอบการแพ้ทุกครั้งก่อน เพียงเท่านี้ก็จะบำรุงผิวให้ขาวขึ้นได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นแล้ว

สบู่ที่ทําให้ขาว

เลือกใช้สบู่ที่ทําให้ขาว อย่างปลอดภัย ปราศจากสารปรอท

เลือกสบู่ที่ทําให้ขาว ที่ไม่มีสารเคมีอันตรายอย่างปรอท

หากพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่ผิวยอดนิยมในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นครีมผิวหน้าแน่ๆ แต่ว่ายังมีสินค้าผิวขาวอีกตัวหนึ่งที่ผลิตออกมาขายกันอยู่เรื่อยๆหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ซึ่งก็คือ สบู่ที่ทําให้ขาว นั่นเอง สบู่ผิวขาวนี้หลายตัวผลิตออกมาอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน ใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่เป็นสบู่อันตรายเนื่องจากมีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายอย่างปรอทเอาไว้ สารนี้ทำให้ผิวขาวขึ้นจริงแต่เป็นอันตรายอย่างมาก สบู่หรือผลิตภัณฑ์ผิวขาวตัวไหนมีสารนี้ต้องงดใช้โดยเด็ดขาด ว่าแต่อันตรายอย่างไร มาดูกัน

สบู่ที่ทําให้ขาว

 

ก่อนอื่นต้องอธิบายกลไกการปรับสีผิวของปรอทก่อน โดยสารนี้เมื่อรับเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซเนส ทำให้มีการผลิตเซลล์เม็ดสีผิวน้อยลง ผิวจึงขาวขึ้น โดยจะขาวไวมากแต่จะดูขาวซีด ผิวบาง เห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้ง่าย เนื่องจากขาวไวทันใจทำให้หลายคนไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา

ปรอทในสบู่ที่ทําให้ขาวรวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ถึงแม้ร่างกายจะรับเข้าไปเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเกิดผลข้างเคียงได้ตั้งแต่มีอาการแพ้ ผิวลอกแดง ผิวบางไวต่อแดด ผิวด่างขาวหรือไม่ก็ดำเหมือนเป็นฝ้าอย่างถาวร ในกรณีที่ใช้เยอะๆหรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน พิษปรอทจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและก่อให้เกิดการอักเสบที่อวัยวะภายในมากมาย เช่น ตับ ไต ทางเดินปัสสาวะ โลหิตจาง ระบบประสาทและสมองถูกทำลาย ในรายที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง อาจตับวายเฉียบพลันและเสียชีวิตหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ซึ่งเป็นข่าวที่พบได้เป็นระยะตามสื่อต่างๆ

สบู่ที่ทําให้ขาว

สำหรับผู้ที่อยากมีผิวขาวแต่ไม่อยากตกอยู่ในอันตรายของสารปรอท ขอแค่เพียงหลีกเลี่ยงสบู่ที่ทําให้ผิวขาวที่โฆษณาเกินจริง เพราะสบู่หรือแม้แต่สกินแคร์อื่นๆถึงแม้จะมีส่วนผสมที่พรีเมียมแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้ผิวขาวเร็วทันใจภายในไม่กี่วันอย่างแน่นอน นอกจากนี้จะต้องเลือกใช้สบู่ที่มีการผลิตได้มาตรฐาน มีข้อมูลการผลิตที่ถูกต้องชัดเจนและน่าเชื่อถือ มีฉลาก มีการรับรองความปลอดภัยจากอย. หากไม่รู้จะเลือกใช้ยี่ห้อไหนดี จะลองเปิดใจให้ “Pure Soap” กันดูก็ได้ รับประกันว่าสบู่ของเราปลอดภัย ปราศจากสารอันตรายอย่างปรอทแน่นอน

สบู่บํารุงผิว

เคล็ดลับการทำความสะอาดผิวหน้าและการใช้สบู่บํารุงผิวหน้า

เคล็ดลับการล้างหน้า และการเลือกใช้สบู่บำรุงผิวหน้า

การทำความสะอาดเป็นขั้นตอนการดูแลผิวหน้าแบบพื้นฐานที่หลายคนละเลย บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ แค่ล้างให้จบกันไปก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้อง เพราะหากอยากมีผิวที่สวยสุขภาพดีก็เริ่มต้นได้ที่เรื่องธรรมดาอย่างการล้างหน้านี่เอง แล้วควรล้างอย่างไรดีหรอควรเลือกใช้สบู่บํารุงผิวหน้าอย่างไรบ้าง เรานำคำตอบมาฝากกันแล้วค่ะ

1.ล้างเครื่องสำอางให้หมดจด เครื่องสำอางที่ใช้สำหรับแต่งหน้านั้นมีมากมาย หลายชนิดมีความข้นหนืดเกาะติดผิวได้ดี ล้างออกด้วยน้ำและสบู่ธรรมดาได้ยาก หากล้างไม่สะอาดสารเคมีในเครื่องสำอางจะตกค้างบนใบหน้า อุดตันตามรูขุมขน ทำให้เกิดสิวได้ง่าย ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างเครื่องสำอางโดยเฉพาะจะทำความสะอาดได้หมดจดมากกว่า

2.ล้างหน้าอย่างถูกวิธี ชโลมน้ำให้ทั่วผิวหน้า บีบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าลงที่ฝ่ามือแล้วถูให้เกิดฟอง จากนั้นนำมานวดที่ผิวหน้าเบาๆจนทั่ว ขั้นตอนนี้ควรใชเวลาสัก 15-20 วินาที เพื่อความมั่นใจว่าสิ่งสกปรกจะถูกชะล้างจนหมดแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด

สบู่บํารุงผิว

3.ไม่ล้างด้วยน้ำอุ่นจัด เพราะน้ำที่อุ่นเกินไปจะล้างไขมันตามธรรมชาติออกไปจำนวนมาก หากล้างบ่อยๆผิวจะแห้งตึงจนขาดความชุ่มชื่นได้ ดังนั้นควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิธรรมดาหรือน้ำเย็นเท่านั้น

4.ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป สำหรับบางคนที่ผิวมัน อาจจะรู้สึกรำคาญจนอยากล้างหน้าบ่อยๆ แต่การล้างหน้ามากเกินไปจะทำให้ผิวแห้งในระยะแรก หลังจากนั้นไขมันจะถูกผลิตออกมามากขึ้นจนทำให้หน้ามันกว่าเดิมได้ ดังนั้นหากช่วงไหนรู้สึกว่าผิวมันมากๆ แนะนำให้ซับด้วยกระดาษซับมันหรือทิชชู่แทน

5.เช็ดด้วยโทนเนอร์ทุกครั้งหลังล้างหน้า โทนเนอร์จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจจะยังเหลืออยู่ พร้อมทั้งปลอบประโลมและเตรียมพร้อมผิวเพื่อให้พร้อมรับกับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป

6.เลือกใช้สบู่บำรุงผิวหน้าอย่างเหมาะสม หากต้องการการบำรุงนอกเหนือจากทำความสะอาดด้วย สบู่ที่เลือกใช้ควรมีส่วนผสมที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้ อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากสารเคมีรุนแรง ใช้แล้วผิวต้องไม่แห้งเกินไป

สบู่บํารุงผิว

การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกต้องไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องใส่ใจมากกว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อล้างให้สะอาดและทำร้ายผิวน้อยที่สุด ในส่วนของสบู่บํารุงผิวหน้าน้นเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวเป็นหลัก เพียงเท่านี้ก็จะผิวที่สะอาดสดใสและพร้อมรับกับการบำรุงแล้ว

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

เผยเคล็ดลับสครับผิวขาวยังไงไม่ให้ทำร้ายผิว

เลือกสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีพร้อมเผยวิธีการสครับผิวที่ไม่ทำร้ายผิว

การสครับผิวเป็นสิ่งที่ดี เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องทำหากอยากมีผิวที่ขาวกระจ่างใส เนียนนุ่ม น่าสัมผัส แต่ว่าการสครับหรือขัดผิวนี้ หากทำแบบผิดวิธีก็อาจกลายเป็นการทำร้ายผิวได้ แทนที่จะมีผิวสวยใส ผิวอาจจะพังหรือหมองคล้ำได้แทน  แล้วสครับอย่างไรจึงจะถูกวิธี เลือกสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีกับผิว มาหาคำตอบกัน

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

 

สครับผิวอย่างไร ไม่ให้ทำร้ายผิว

การสครับผิวมีประโยชน์ในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวเก่าซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้ว แต่เพราะแบบนั้นทำให้บางคนสครับบ่อยๆเพราะเข้าใจว่าผิวจะได้เรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นเร็วๆ ซึ่งนั่นจะส่งร้ายผลต่อผิวเสียมากกว่า แล้วจะต้องสครับอย่างไรไม่ให้ผิวถูกทำร้ายกันล่ะ?

1.อย่าสครับบ่อยเกินควร เพราะจะทำให้ผิวบางลงจนไวต่อแดด หมองคล้ำได้ง่าย บางคนเมื่อผิวบางจะมีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมสูง แพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นแนะนำให้สครับผิวแค่ 3-4 ครั้ง/เดือนก็เพียงพอแล้ว ส่วนผิวหน้าแค่เดือนละ 2 ก็พอ

2.งดสครับตอนเป็นสิว ผิวหน้าในขณะที่กำลังเป็นสิวนั้นค่อนข้างบอบบางและแพ้ง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นสิวอักเสบ เพราะฉะนั้นควรงดสครับผิวหน้าโดยเด็ดขาด อันที่จริงควรงดแต่งหน้าหรือใช้สกินแคร์ทั่วไปด้วย เลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวเป็นพิเศษเท่านั้น

3.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดสครับแข็งๆ เพราะจะขูดขีดผิวหน้าจนก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ เม็ดสครับที่ดีควรมีขนาดเล็กละเอียด ขัดแล้วช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ดีแต่ไม่บาดผิว

4.เลือกสครับให้เหมาะกับสภาพผิว หากไม่รู้จะเลือกใช้สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีแนะนำให้เลือกตามสภาพผิวก่อนเป็นอย่างแรก เช่น หากผิวแห้งควรใช้สครับเนื้อครีมที่มีส่วนผสมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ ถ้าผิวมันจะเหมาะกับสครับเนื้อเจลมากกว่า ใครที่มีผิวธรรมดาสามารถใช้สครับได้ทุกประเภท แต่ผู้ที่ควรระวังมากที่สุดคือผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จะต้องใช้สครับสูตรอ่อนโยน ไม่มีเม็ดบีดส์หรือถ้ามีก็จะต้องเล็กละเอียดมากๆและไม่มีส่วนผสมของสารที่รุนแรงต่อผิว

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

และนี่ก็เป็นแนวทางการสครับผิวแบบไม่ทำร้ายผิวที่ทางเราได้เรียบเรียงมาฝากกัน ใครที่สงสัยเรื่องการสครับแบบถูกวิธีก็หวังว่าจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไปไม่มากก็น้อย ส่วนใครที่กำลังมองหาสครับดีๆสักตัวแต่ไม่รู้จะเลือกสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีก็เลือกโดยคำนึงถึงสภาพผิวและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก

ครีมบำรุงหน้าที่ดีที่สุด

การเลือกครีมบำรุงหน้าที่ดีที่สุดสำหรับสภาพผิวแห้ง

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุดสำหรับคนผิวหน้าแห้ง ควรเลือกอย่างไรดี

การมีผิวแห้ง นับเป็นอีกสภาพผิวหนึ่งที่สร้างปัญหาให้ไม่น้อย เพราะผิวมักจะมีลักษณะแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื่น ผลที่ตามมาคือเกิดริ้วรอยได้ง่ายและแก่เร็วนั่นเอง ดังนั้นการเลือกครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแบบนี้จึงต้องตอบโจทย์ในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี ซึ่งครีมบำรุงที่วางขายอยู่ทั่วไปก็มีอยู่ด้วยกันหลายสูตร แล้วจะเลือกแบบใดดีที่เหมาะสมกับผู้ที่มีผิวแห้ง มาหาคำตอบกันได้ที่นี่

ครีมบำรุงหน้าที่ดีที่สุด

 

การเลือกครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุดสำหรับผิวแห้ง

การมีผิวแห้งนั้นสร้างผลกระทบหลายประการ นอกจากจะทำให้ผิวดูทรุดโทรมไม่มีชีวิตชีวาและเหี่ยวย่นได้ง่ายแล้ว ผิวก็มักจะแห้งคัน ลอกหรือเป็นขุย แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่ค่อยติด ใครที่มีผิวแห้งมากอาจจะมีปัญหาผิวแพ้ง่ายตามมาอีกด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่จะต้องเลือกใช้ครีมบำรุงอย่างเหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้นนั่นเอง สำหรับแนวทางการเลือกครีมบำรุงหน้าที่ดีที่สุดสำหรับสภาพผิวแห้ง ทำได้ดังต่อไปนี้

1.ส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื่น หากมีผิวแห้งแล้วอยากได้ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด นี่เป็นปัจจัยแรกที่ต้องนำมาพิจารณา โดยสารเพิ่มความชุ่มชื่นหรือมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์ที่นิยมใส่ในครีมบำรุงมีหลายชนิด เช่น เซรามายด์(Ceramide) ที่จะมีคุณสมบัติช่วยลดการสูญเสียน้ำในผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นสูง, กรดไฮยาลูรอนิค(Hyaluronic Acid) ช่วยรักษาระดับน้ำในผิว ผิวจะชุ่มชื่นและเรียบเนียน, คอลลาเจน(Collagen) ทำให้ผิวอิ่มน้ำ อิ่มเอิบ นุ่มฟู ดูสุขภาพดี ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

2.ปราศจากสารเคมีรุนแรง สำหรับใครที่ผิวแห้งจนแดงลอก ผิวมักแพ้ง่ายด้วย เพราะฉะนั้นแนะนำให้ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่ปราศจากสารเคมีรุนแรง เช่น แอลกอฮอล์ พาราเบน สีสังเคราะห์ น้ำหอมฉุน เป็นต้น จะช่วยลดโอกาสจะเกิดอาการแพ้ได้

3.ราคาเหมาะสม เมื่อมีผิวสภาพผิวแห้งแต่ต้องการบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ จำเป็นต้องทาครีมเป็นประจำไม่ให้ขาด เพราะฉะนั้นควรเลือกซื้อครีมที่มีราคาเหมาะสม เนื่องจากหากราคาแพงจนเกินไปอาจจะไม่สามารถซื้อมาใช้ได้อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

ครีมบำรุงหน้าที่ดีที่สุด

และนี่ก็เป็นแนวทางการเลือกครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งที่ทางเรานำมาฝากกัน ใครกำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ สามารถนำคำแนะนำข้างต้นไปลองใช้ดูกันได้ รับรองว่าจะช่วยให้เลือกซื้อครีมได้ตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้นอย่างแน่นอน

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว จุดเริ่มต้นง่ายๆของการมีผิวขาวกระจ่างใส

ผิวขาวกระจ่างใสได้ง่ายๆ เริ่มจากการเลือกใช้สบู่

การดูแลผิวพรรณให้ขาวกระจ่างใสนั้นทำได้หลายวิธี แต่การอาบน้ำมักเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามแล้วหันไปบำรุงโดยการทาครีมหรือทานอาหารเสริม แต่อันที่จริงแล้วมีสบู่หลากหลายยี่ห้อที่ผลิตออกมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับผิวให้ขาวขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งคงจะดีกว่าแน่นอนหากเริ่มดูแลกันตั้งแต่สเตปแรก เพราะผิวจะได้สะอาดสดใสและพร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่นั่นเอง ว่าแต่ควรซื้อสบู่ที่ทําให้ผิวขาวยี่ห้อไหนมาใช้กันดี?

สบู่ที่ทำให้ผิวขาวนั้นมีหลายยี่ห้อ ส่วนผสมก็จะแตกต่างกันออกไป ประสิทธิภาพก็จะต่างกันไปด้วย สบู่ผิวขาวที่ดีควรทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด กำจัดคราบไคลและสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดีพร้อมทั้งบำรุงและปรับสีผิวให้กระจ่างใสไปพร้อมๆกัน การเลือกสบู่ที่มีคุณสมบัติแบบนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปหากทุกคนได้รู้จักกับ “Pure Soap” สบู่มะพร้าวสดที่อุดมไปด้วยสารสกัดที่ดีต่อผิวพรรณ สบู่ที่ทำความสะอาดผิวได้ดีแต่ไม่ทำให้ผิวแห้ง มีส่วนผสมจากน้ำมะพร้าวบริสุทธิ์ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื่น ลดการอักเสบและการระคายเคือง กรดลอริคในน้ำมะพร้าวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

มีกรดผลไม้(AHA)จากธรรมชาติช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ขาวกระจ่างใสมากขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำแลดูจางลง มีกลูต้าไธโอนซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว ปรับผิวที่หมองคล้ำให้ขาวใสมากขึ้น มีวิตามินอีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ชะลอการเกิดริ้วรอยได้ คุณสมบัติทั้งหมดนี้อัดแน่นอยู่ภายในสบู่เพียงก้อนเดียว ใครที่กำลังมองหาสบู่ผิวขาวอยู่ นี่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก

 

เคล็ดลับการอาบน้ำ

แนะนำให้ใช้สบู่ Pure Soap ทุกครั้งที่อาบน้ำ โดยใช้ร่วมกับใยขัดผิวขัดเป็นวงกลมให้ผิวร่างกาย เน้นตรงซอกพับและจุดที่ดำด้าน เช่น รักแร้ ข้อศอก หัวเข่า ขาหนีบ ก้น ซอกเท้า เป็นต้น เมื่อขัดจนทั่วแล้วฟอกทิ้งไว้ 3 นาทีแล้วล้างออก หากอยากให้สิ่งสกปรกหลุดออกมาได้ง่ายกว่าเดิม ก่อนฟอกสบู่ควรอาบน้ำอุ่นกว่าอุณหภูมิร่างกายเล็กน้อยสัก 2-3 นาที เพื่อเปิดรูขุมขน จะได้ง่ายต่อการทำความสะอาดนั่นเอง

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

เมื่อทราบกันอย่างนี้แล้วก็อย่าลืมไปหาซื้อสบู่ที่ทําให้ขาวมาลองใช้กันดู ที่สำคัญต้องปฏิบัติตามเคล็ดลับการอาบน้ำกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะผิวจะไม่มีการะสมของคราบไคล เซลล์ผิวเก่าจะถูกผลัดออกไป ผิวพรรณจะสะอาดและขาวกระจ่างใสยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สบู่ที่ทําให้ขาว

อยากมีผิวหอม กระจ่างใส เลือกใช้สบู่ที่ทําให้ผิวขาวอย่างไรดี

เลือกใช้สบู่ที่ทําให้ผิวขาวยี่ห้อไหนดี เรามาหาคำตอบกันดีกว่า

การอาบน้ำเป็นพื้นฐานของการมีผิวสวยสุขภาพดี ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆที่หลายคนมองข้าม นอกจากนี้ยังมีบางคนที่รู้สึกอาบยังไงก็ไม่สะอาด ทั้งคราบไคลที่สะสมและกลิ่นตัวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแม้จะเพิ่งอาบน้ำไปได้ไม่นาน ดังนั้นในวันนี้ใครที่อยากมีผิวสวย ดูขาวใสแลดูสุขภาพดี  มาดูดีกว่าว่าควรอาบน้ำอย่างไรหรือเลือกใช้สบู่ที่ทําให้ผิวขาวยี่ห้อไหนดี

 

เคล็ดลับการอาบน้ำและแนวทางการเลือกสบู่ที่ทําให้ขาว

ในแต่ละวันผิวหนังต้องเผชิญกับมลภาวะมากมาย เมื่อผสมรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันที่ผิวหนังจึงกลายมาเป็นคราบสกปรกติดแน่น หากอาบน้ำแล้วชะล้างไม่สะอาดพอก็จะหลงเหลือคราบนี้บนผิวหนัง เมื่อสะสมนานๆเข้าก็จะกลายเป็นขี้ไคลนั่นเอง การมีขี้ไคลอยู่บนผิวหนังเยอะๆนอกจากจะทำให้ดูไม่สะอาดแล้ว ยังทำให้ผิวหมองคล้ำ และสีผิวไม่สม่ำเสมออีกด้วย แล้วถ้าอยากมีผิวที่สะอาด ขาวกระจ่างใส ต้องอาบน้ำอย่างไรดี?

สบู่ที่ทําให้ขาว

 

เลือกสบู่ให้ถูกต้อง เนื่องจากน้ำมันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คราบสกปรกเกาะติดผิวหนัง เพราะฉะนั้นสบู่ที่ใช้จะต้องทำให้น้ำมันแตกตัวได้ สิ่งสกปรกจะได้หลุดออกมาและง่ายต่อการชะล้าง สบู่แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติในชะล้างมากน้อยต่างกัน วิธีทดสอบทำได้โดยนำน้ำมันมาป้ายแก้วใสแล้วทิ้งเอาไว้จนเริ่มแห้งเล็กน้อย จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ถูสบู่ที่คราบบางส่วนแล้วล้างน้ำอีกรอบ ทิ้งจนแห้ง หากสบู่มีคุณภาพดี แก้วจะกลับมาใสดังเดิมโดยไม่ทิ้งคราบเอาไว้

ส่วนผสม หากต้องการให้ผิวขาวด้วยต้องเลือกสบู่ที่ทําให้ผิวขาวซึ่งมักจะมีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง ปัจจุบันนี้มีไวท์เทนนิ่งหลายชนิดที่นิยมนำมาผสมในสบู่ เช่น วิตามินซี กลูต้าไธโอน อัลฟา-อาร์บูติน เป็นต้น นอกจากนี้สมนุไพรบางประเภทก็มีส่วนช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้เช่นกัน อาทิ มะขาม มะหาด ขมิ้น มะกรูด เป็นต้น ก็สามารถเลือกใช้กันได้ตามต้องการ ทั้งนี้หากใครผิวแพ้ง่ายอย่าลืมเลือกสูตรที่อ่อนโยนต่อผิวด้วย

อย่าอาบน้ำบ่อยเกินไป เพราะจะไปชะล้างน้ำมันธรรมชาติออกมากเกินควร ทำให้ผิวแห้งจนร่างกายต้องขับน้ำมันออกมามากกว่าเดิม ผิวจะเปลี่ยนมาเป็นมันเยิ้มและเหนียวเหนอะหนะในที่สุด สำหรับเมืองไทยที่มีอากาศร้อนแบบนี้ อาบแค่วันละ 2 ครั้งก็เพียงพอ แต่ถ้าไม่ได้ออกไปข้างนอกอยู่แต่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวัน อาบแค่วันละ 1 ครั้งก็พอแล้ว

ผลัดเซลล์ผิวบ้าง จะสครับผิวสัก 2-3 ครั้งสัปดาห์หรือจะใช้ใยขัดผิวทุกครั้งที่อาบน้ำก็ได้ เน้นขัดตามซอกพับต่างๆในร่างกาย เช่น รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับแขนและเข่า ซอกนิ้วเท้า เป็นต้น เพราบริเวณเหล่านี้มักเป็นจุดอับง่ายต่อการสะสมคราบไคลและสิ่งสกปรก

สบู่ที่ทําให้ขาว

จะเห็นได้ว่าการอาบน้ำให้ผิวพรรณสะอาดหมดจดและขาวกระจ่างใสนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องใส่ใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้นโดยเฉพาะเรื่องการเลือกสบู่ที่ทําให้ขาว สำหรับใครที่อยากมีผิวที่สวยใส แลดูสุขภาพดี อยากให้เริ่มต้นกันที่การอาบน้ำ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ส่งผลดีต่อสุขภาพผิวมากกว่าที่หลายคนคิดอย่างแน่นอน

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

ซื้อสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีเลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิว

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี เรามาดูวิธีการเลือกซื้อกัน

หากอยากมีผิวพรรณที่ขาวกระจ่างใสเรียบเนียนอยู่เสมอ การขัดผิวเป็นอีกขั้นตอนที่ควรทำเป็นประจำเพราะฉะนั้นเราจึงควรมีสครับดีๆติดบ้านกันเอาไว้บ้างเพื่อจะได้หยิบมาใช้ได้สะดวก แต่ว่าปัจจุบันนี้มีสครับวางจำหน่ายกันอยู่หลายยี่ห้อ แล้วควรใช้สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีจึงจะเหมาะกับสภาพผิว? มาดูแนวทางการเลือกซื้อกันค่ะ

 

การเลือกใช้สครับให้เหมาะกับสภาพผิว

ผิวพรรณของคนเรานั้นแตกต่างกัน ทำให้จำเป็นต้องเลือกใช้สครับกับเหมาะสมกับสภาพผิวไม่ต่างจากการเลือกใช้สกินแคร์ตัวอื่นๆ โดยทั่วไปแล้วสครับแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่

1.สครับจากธรรมชาติ มักเป็นสครับที่สามารถทำขึ้นเองได้ที่บ้าน ส่วนผสมหลักจะมาจากผัก ผลไม้ สมุนไพร เกลือหรือน้ำตาล ซึ่งจะมีความปลอดภัยสูงและไม่ค่อยก่อให้เกิดอาการแพ้

2.สครับสำเร็จรูป เป็นสครับที่ผลิตโดยกระบวนการทางอุตสาหกรรม ถึงแม้หลายตัวจะมีส่วนผสมจากธรรมชาติอยู่ แต่สครับเหล่านี้มักใส่สารสังเคราะห์ลงไปด้วยเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์นั่นเอง นอกจากนี้บางยี่ห้อยังมีเม็ดบีดส์หรือเม็ดพลาสติกขนาดเล็กมากๆที่ผสมเข้ามาเพื่อช่วยในการขัดผิว ทำให้สครับสำเร็จรูปมีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้มากกว่านั่นเอง

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

 

ในส่วนของการเลือกสครับหากไม่รู้จะเลือกใช้สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีแนะนำให้สำรวจตัวเองก่อนว่ามีสภาพผิวแบบใด เพราะจะได้เลือกได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด ดังนี้

ผิวแห้ง ถึงแม้การสครับจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้นได้แต่นี่เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อทุกสภาพผิว ดังนั้นต้องมองหาสครับที่มอบความชุ่มชื่นสูงๆให้กับผิวได้ หากสครับเป็นเนื้อครีมจะดีกว่าเนื้อเจลเพราะมักจะมีส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์อยู่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง

ผิวมัน ผู้ที่มีผิวมันมักจะมีปัญหาสิวหรือรูขุมขนกว้าง จึงจะเหมาะกับสครับที่มีเนื้อเจลหรือเนื้อแห้งๆแบบไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หากมีเม็ดสครับด้วยจะยิ่งดีเพราะจะช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้ดีและไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน ทั้งนี้ถ้าเป็นสิวควรหลีกเลี่ยงการสครับไปก่อนจนกว่าจะรักษาสิวจนหายดี

ผิวแพ้ง่าย เหมาะกับสครับเนื้อนุ่มเนียน อ่อนโยนต่อผิวและปราศจากสารเคมีรุนแรง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม สารกันเสีย เป็นต้น แต่หากใครกังวลจะทำสครับสูตรธรรมชาติใช้เองก็ได้ โดยเลือกใช้ส่วนผสมที่อ่อนโยน เช่น นม โยเกิร์ต ข้าวโอ๊ตบดละเอียด น้ำผึ้ง เป็นต้น 

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

เมื่ออ่านกันจนจบแล้วยังไม่รู้จะเลือกใช้สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีก็ลองทำสครับสูตรธรรมชาติใช้เองดูก็ได้ ประหยัดและไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้ แต่ถ้าไม่สะดวกแล้วอยากซื้อมาใช้อย่าลืมเลือกซื้อให้เหมาะกับสภาพผิว เพราะสครับจะได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วดีต่อสุขภาพผิว

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี ไม่ทำร้ายผิวใช้แล้วปลอดภัย

พูดถึงการดูแลผิวเชื่อว่าหลายคนทราบดีว่ามีขั้นตอนมากมายเพื่อคงความอ่อนเยาว์และขาวกระจ่างใสให้กับผิวพรรณ การสครับผิวก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะการสครับจะช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำรวมไปถึงฝ้า กระต่างๆ อีกทั้งยังทำให้ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัสอีกด้วย สครับขัดผิวนั้นสามารถทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน แต่ถ้าใครไม่สะดวกจะซื้อมาใช้ก็ได้เช่นกัน ดังนั้นวันนี้นอกจากจะมาแนะนำว่าควรซื้อสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีแล้ว เรายังมีสูตรสครับธรรมชาติมาแจกกันอีกด้วยค่ะ 

    

สูตรสครับผิวจากธรรมชาติ

หากอยากลองสครับผิวแต่ไม่อยากซื้อสครับสำเร็จรูปมาใช้เพราะยังไม่มั่นใจในคุณภาพ เราสามารถหยิบจับวัตถุดิบใกล้ตัวมาทำสครับสูตรธรรมชาติได้ง่ายๆกัน ดังนี้

1.มะขามเปียก+น้ำผึ้ง+เกลือป่น สูตรนี้จัดเป็นสูตรยอดฮิต เพราะทำง่ายและให้ผลลัพธ์ที่ดีงาม วิธีการคือนำมะขามเปียกมาใส่น้ำเล็กน้อย ขยำให้ละลายแล้วนำเส้นมะขามออกไปจนหมด ผสมน้ำผึ้งและเกลือตามลงไปพอประมาณ คนให้เข้ากันจะได้สครับเหนียวข้นเล็กน้อย มะขามและเกลือป่นช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำผึ้งช่วยบำรุงและลดการอักเสบของผิว

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

 

2.กากกาแฟ+น้ำผึ้ง สครับสูตรนี้ทำได้ง่ายมาก แค่เพียงนำส่วนผสมทั้งสองชนิดมาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นก็สครับผิวได้เลย กากกาแฟจะมีความละเอียดสูง ผลัดเซลล์ผิวได้ดีแต่ไม่บาดผิว ทั้งยังช่วยกระชับผิวและกำจัดเซลล์ลูไลต์ นอกจากนี้กลิ่นกาแฟนหอมๆยังช่วยเพิ่มความผ่อนคลายได้อีกด้วย

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

 

3.น้ำตาลทรายแดง+น้ำมันมะพร้าว นำน้ำตาลทรายแดงไปปั่นให้ผลึกมีความละเอียดมากขึ้น จากนั้นมาผสมกับน้ำมันมะพร้าว เมื่อผสมเสร็จให้รีบใช้ทันทีก่อนน้ำตาลจะละลาย สามารถใช้สครับได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย หากใครมีปัญหาปากแห้งแตกหรือลอกเป็นขุยอยู่เสมอ จะนำไปสครับริมฝีปากก็ได้เช่นเดียวกัน

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

อันที่จริงแล้วสูตรสครับธรรมชาติยังมีอีกมากมาย เพราะยังมีวัตถุดิบหลายชนิดที่ดีต่อผิวพรรณ เช่น แตงกวา มะเขือเทศ โยเกิร์ต นมสด ข้าวโอ๊ต มะละกอ มะนาว มะกรูด ขมิ้น มะหาด กล้วยหอมฯลฯ มีวัตถุดิบอะไรก็สามารถนำมาปรับสูตรกันได้ตามใจชอบ แล้วครับสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว

 

หากใครไม่สะดวกทำสครับด้วยตัวเองเพราะไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่มีวัตถุดิบ ก็ควรไปหาซื้อสครับสำเร็จรูปมาใช้ แต่ว่าควรเลือกซื้อสครับผิวขาว ยี่ห้อไหนดี?

“Jellys Snail Candy Scrub” เป็นสครับผิวแบบ 2in1 คือเป็นทั้งสครับและมาส์กบำรุงผิวไปในตัว ตัวสครับมาในรูปแบบก้อน มีส่วนผสมสำคัญได้แก่ กลูต้าไธโอน เมือกหอยทาก น้ำตาลทราย อ้อย มะพร้าว กรดผลไม้และกลีเซอรีน สครับเป็นก้อนกลมเวลาใช้ต้องผสมน้ำเล็กน้อยแล้วถูจนยืดแล้วค่อยนำมาขัดถูตามร่างกาย สามารถใช้แทนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไปได้เลย สครับมีกลิ่นหอม ใช้สนุก หากสครับอย่างสม่ำเสมอ สีผิวจะสม่ำเสมอมากขึ้น ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวเนียนนุ่มกระชับ ความมันลดลง ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดสิว ผิวขาวสว่างกระจ่างใสขึ้น ดูเปล่งปลั่งและสุขภาพดี

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี

หากไม่รู้จะเลือกสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีที่ใช้แล้วปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้จริง Jellys Snail Candy Scrub คือทางออกที่ดี สครับมีกลิ่นหอมหวาน ขัดสะอาด ช่วยให้การอาบน้ำและสครับผิวกลายเป็นเรื่องที่สนุกมากขึ้น ที่สำคัญมาในปริมาณที่คุ้มค่ากับราคาที่ย่อมเยาอีกด้วย

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

แนวทางการเลือกครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด สำหรับวัย 20+

เคล็ดลับการเลือกครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุดสำหรับวัยรุ่น

เมื่ออายุย่างเข้าเลขสอง ถึงแม้จะผ่านช่วงวัยรุ่นมาไม่นานและผิวยังคงมีความแข็งแรงดีอยู่ แต่การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะกับช่วงอายุก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะได้ช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้ผิวไปได้นานๆนั่นเอง สำหรับคนวัย 20+ นี้ขอบอกเลยว่ามีครีมให้เลือกใช้มากมาย ซึ่งตัวเลือกที่เยอะมากนี่เองทำให้หลายคนเกิดอาการสับสนจนไม่รู้จะซื้อตัวไหนมาใช้กันดี ดังนั้นใครที่กำลังมองหาครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุดสำหรับคนวัยนี้กันอยู่ เรามีคำแนะนำมาฝากกันค่ะ

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

 

การเลือกครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด สำหรับวัย 20+

ก่อนจะเลือกซื้อครีม อยากให้ลองมาทำความเข้าใจกับสภาพผิวของคนวัยนี้กันก่อน โดยทั่วไปเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ผิวจะเริ่มเปลี่ยนแปลงและซ่อมแซมตัวเองได้ช้าลงหลังอายุ 25 แต่ในวัยที่เพิ่งเข้าเลขสอง สภาพผิวจะไม่ต่างจากช่วงวัยรุ่นมากนัก ผิวพรรณยังเต่งตึง อ่อนนุ่มและซ่อมแซมตัวเองได้ดี ดังนั้นการบำรุงที่เหมาะสมสำหรับสำหรับคนวัยนี้จึงควรเป็นอยู่ในลักษณะรักษาความแข็งแรงให้ผิวมากกว่าแก้ปัญหา ซึ่งเบื้องต้นสามารถเลือกซื้อครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุดสำหรับวัย 20+ ได้ดังต่อไปนี้

1.เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ตรวจสอบสภาพผิวของตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร เป็นคนผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสมหรือผิวแพ้ง่าย แล้วเลือกครีมบำรุงให้เหมาะสมกับสภาพผิว ซึ่งจะให้การบำรุงที่ตอบโจทย์มากที่สุด

2.ต้องรักษาความชุ่มชื่นให้ผิว ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบใด แต่การรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิวนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเมื่อผิวอิ่มเอิบไม่แห้งกร้าน ผิวก็จะดูเปล่ง สุขภาพดี มีความยืดหยุ่นสูง เกิดริ้วรอยได้ช้าลง ช่วยชะลอความชราได้

3.ต้องพร้อมรับมือกับริ้วรอยและความหย่อนคล้อย เมื่อเข้าสู่อายุ 25 หลายๆคนอาจเริ่มประสบกับสารพัดปัญหาผิว เช่น ผิวแห้ง ผิวยืดหยุ่นน้อยลง หมองคล้ำหรือเริ่มปรากฏริ้วรอย เช่น รอยตีนตา รอยย่นตามข้างแก้มหรือบนหน้าผาก เป็นต้น ดังนั้นควรเตรียมผิวให้พร้อมต่อการรับมือกับปัญหา ครีมที่เลือกใช้จึงต้องมีส่วนผสมที่ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เช่น เซราไมด์หรือคอลลาเจนสำหรับเพิ่มความชุ่มชื่น วิตามินซีสำหรับปรับสีผิว เรตินอลหรือวิตามินอีสำหรับลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย เป็นต้น

ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

ถึงแม้จะอายุแค่หลักสอง แต่ก็ต้องใส่ใจดูแลผิวพรรณไม่ต่างจากคนวัยอื่น เพราะยิ่งดูแลดี ผิวก็จะยิ่งแก่ช้าลง คงความอ่อนเยาว์ได้ยาวนานยิ่งขึ้น สำหรับคนวัยนี้หากกำลังมองหาครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุดอยู่ สามารถนำข้อมูลจากบทความนี้ไปประกอบการพิจารณาได้ จะช่วยให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ง่ายมากขึ้นอย่างแน่นอน