ครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิว ต้องลือกให้เป็นนะ ถึงจะไม่ทำให้สิวเห่อ

“สิว” ปัญหาพื้นฐานของผิวหน้าที่เกือบทุกคนต้องเคยประสบมาแล้ว และถึงแม้ปัญหาสิวจะพบได้บ่อยจนน่าจะมีผลิตภัณฑ์สำหรับสิวออกมาขายกันมากมาย แต่สำหรับครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวกลับมีให้เลือกไม่มากเสียอย่างนั้น มันจึงทำให้สาวๆที่เป็นสิวรู้สึกเป็นกังวลใจในการเลือกใช้ครีม เพราะหากลองผิดลองถูกแล้วมันไม่โอเคกับผิวหน้า นอกจากสิวไม่หายแล้วยังอาจเป็นหนักกว่าเดิมได้อีกด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะพามาดูวิธีการเลือกครีมบำรุงให้เหมาะกับผิวที่เป็นสิวกันค่ะ

ประเภทของสิว

ในวันนี้จะขอแบ่งสิวเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ สิวในวัยรุ่น กับสิวในวัยผู้ใหญ่ ที่ต้องแบ่งก็เนื่องจากว่าสิวทั้ง 2 ทั้งมีที่มาที่ไปแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นวิธีการเลือกย่อมแตกต่างกันไปด้วย แต่ก่อนจะไปดูวิธีการเลือก มาดูต้นเหตุของการเกิดสิวกันก่อนดีกว่าค่ะ

• สิวในวัยรุ่น ส่วนมากเกิดความแปรปรวนของฮอร์โมน เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ฮอร์โมนจะถูกผลิตมากขึ้น ซึ่งมันจะไปกระตุ้นให้ผิวหนังผลิตไขมันเยอะมากขึ้นได้ จึงทำให้เป็นสิวอุดตันได้ง่าย โดยเฉพาะผิวหน้าในบริเวณ T-Zone
• สิวในวัยผู้ใหญ่ มักเกิดจากเครียดในการทำงาน เครียดมากแล้วฮอร์โมนจะเหวี่ยงเช่นเดียวกัน เมื่อภาวะฮอร์โมนขาดความสมดุล ผิวจะเริ่มแห้งกร้าน ทำให้เกิดสิวและริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย ยิ่งถ้าใครทำงานหนัก นอนน้อย ผิวยิ่งโทรมและเป็นสิวง่ายยิ่งขึ้น

การเลือกครีมบำรุง

เมื่อรู้จักประเภทของสิวกันไปแล้ว ก็มาดูวิธีการเลือกครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวกัน

• มอยเจอร์ไรเซอร์ ถึงแม้วัยรุ่นจะผิวมันง่ายได้ง่าย แต่มอยเจอร์ไรเซอร์ก็ยังสำคัญ เพราะฉะนั้นควรทาครีมที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ในปริมาณปานกลาง เพื่อคงความชุ่มชื่นให้ผิว เมื่อผิวชุ่มชื่นดีแล้ว ต่อมไขมันจะผลิตไขมันออกมาน้อยลง ช่วยลดการเป็นสิวอักเสบได้ ส่วนผู้ใหญ่นั้นมอยเจอร์ไรเซอร์สำคัญมาก เพราะผิวคนวัยนี้จะแห้งกร้านได้ง่าย มีโอกาสระคายเคืองสูง การทาครีมที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำจะช่วยให้ผิวแห้งน้อยลง ไม่ระคายเคือง ลดการเกิดสิว
• ช่วยยับยั้งการเกิดสิว เหล่าวัยรุ่นควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของกรดซาลิกไซลิก(Saliccylic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียอันเป็นตัวการสิวอักเสบ หรือสารต้านการอักเสบอย่าง โทโคพิริล อะซีเตต(Tocopheryl Acetate) ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้สิวอักเสบหนักไปกว่าเดิม
• Non-Comedogenic ครีมบำรุงสูตรนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว ทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่ เพราะเป็นครีมที่มีโอกาสอุดตันรูขุมขนน้อยมาก
• ช่วยฟื้นฟูผิว ผิวหน้าในขณะเป็นสิวหรือหลังรักษาสิวเพิ่งหาย จะยังอ่อนแออยู่ เพราะฉะนั้นต้องเลือกครีมสูตรที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าให้กลับมาแข็งแรง เช่น มีส่วนผสมของ วิตามินซี เซราไมด์ ไฮยาลูรอน เป็นต้น ทั้งนี้ไม่ควรมีสารเคมีที่รุนแรงต่อผิวอย่างเช่น สี น้ำหอมฉุน แอลกอฮอล์หรือสารกันเสีย
• ไม่เหนียวเหนอะหนา หากครีมมีเนื้อสัมผัสที่หนักเกินไป นอกจากใช้แล้วจะไม่สบายหน้าแล้ว ยังเพิ่มโอกาสการอุดตันอีกด้วย

ถึงแม้การเลือกครีมบํารุงสําหรับคนเป็นสิวจะดูยุ่งยากไปเสียหน่อย แต่เพื่อบำรุงให้ผิวกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ก็ต้องใส่ใจกันให้มากขึ้นค่ะ เอาล่ะ สำหรับใครที่เป็นสิวแล้วหาซื้อครีมบำรุงอยู่ แต่ไม่รู้จะชี่ห้อไหนดี เพราะเป็นกังวลกลัวสิวจะอุดตันหรือเห่อขึ้นมาอีก ก็ลองนำแนวทางข้างต้นไปใช้กันดูค่ะ รับรองได้ว่าครีมบำรุงที่ถูกใจใช้ดีกันอย่างแน่นอน

เซรั่มวิตามินซี ยี่ห้อไหนดีที่สุด ในตลาดมีมากมายเหลือเกิน

เซรั่มวิตามินซี เป็นสกินแคร์อีกชนิดหนึ่งที่จำเป็นกับผิวหน้า ด้วยคุณสมบัติในการบำรุงผิวได้อย่างล่ำลึก โดดเด่นในเรื่องการเพิ่มความกระจ่างใสเรียบเนียนให้กับสีผิว จึงทำให้สาวๆมักมีสกินแคร์ตัวนี้ติดโต๊ะเครื่องแป้งอยู่เสมอ แต่ว่าเซรั่มวิตามินซี ยี่ห้อไหนดีที่สุด ในเมื่อมีขายกันมากมายหลายยี่ห้อขนาดนี้ ก่อนจะมาหาคำตอบเรามาดูวิธีการเลือกซื้อก่อนดีกว่าค่ะ

1.ความเข้มข้น วิตามินซีมีให้เลือกหลายความเข้มข้น ซึ่งก็มีตั้งแต่น้อยไปมาก แน่นอนว่าถ้ามีความเข้มข้นสูงก็ย่อมเห็นผลได้รวดเร็วมากกว่า แต่ว่าอะไรที่มากไปก็ย่อมไม่ดี เพราะถ้ามีความเข้มข้นสูงเกินไปอาจทำให้ผิวหน้าแห้งลอกหรือระคายเคืองได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะฉะนั้นถ้าใครยังไม่เคยใช้แนะนำให้ลองแบบที่มีความเข้มข้นต่ำไปก่อนจะดีกว่าค่ะ

2.เนื้อสัมผัส หากสาวๆมีปัญหาผิวค่อนข้างเยอะ ทั้งสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ ควรเลือกวิตามินซีที่ซึมลึกเข้าสู่ผิวชั้นนอกได้ดีและมีความเสถียร เพราะวิตามินซีจะอยู่บนผิวได้นาน ช่วยบำรุงผิวได้ล้ำลึกมากขึ้น ส่วนเนื้อสัมผัสอันนี้ต้องแล้วแต่ความชอบเพราะมีตั้งแต่เนื้อใสเนียนลื่น ซึมซาบง่ายไปจนถึงข้นหนืด เพราะฉะนั้นจึงขอแนะนำให้ไปทดลองที่เคาน์เตอร์ก่อนจะซื้อมาใช้ จะช่วยให้เลือกเซรั่มวิตามินซียี่ห้อไหนดีที่สุดมีเนื้อสัมผัสถูกใจมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของเซรั่มวิตามินซี

1.กำจัดสิว วิตามินซีนั้นช่วยต้านการอักเสบและลดการผลิตไขมันบนใบหน้าลงได้ สังเกตได้จากการทาเซรั่มที่มีอนุพันธ์วิตามินซีบริสุทธิ์ ผิวจะแห้งขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งมันช่วยลดการเกิดสิวอุดตันได้ อย่างไรก็ตามวิตามินซีนั้นเป็นกรด หากกำลังเป็นสิวอักเสบอยู่ไม่ควรใช้ เพราะสิวอาจอักเสบหนักกว่าเดิมได้

2.ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ นอกจากช่วยแก้ไขปัญหาสิวแล้ว วิตามินซียังช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อีก ช่วยบำรุงให้สีผิวกลับมากระจ่างใสสม่ำเสมอ

3.เพิ่มความยืดหยุ่น วิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ผิวหน้าจึงยืดหยุ่นและอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

4.ชะลอการเกิดริ้วรอย จากคุณสมบัติในเรื่องการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ใบหน้าของวิตามินซี ผิวจึงมีความแข้งแรงมากขึ้น ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็ว ผิวจึงกระชับเต่งตึง รวมทั้งยังมีการกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวอยู่เสมอ จึงช่วยลดริ้วรอย ฝ้า กระบนใบหน้า ผิวจึงสดใสแลดูอ่อนกว่าวัยมากยิ่งขึ้น

อย่างที่บอกว่าค่ะตามท้องตลาดมีวางขายอยู่หลายยี่ห้อ การจะรู้ว่าเซรั่มวิตามิน ยี่ห้อไหนดีที่สุดจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะสภาพผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีทีสุดในการพิสูจน์คือ การไปทดลองใช้กับเคาน์เตอร์ หรือว่าจะซื้อแบบเทสเตอร์มาทดลองก่อนก็ได้ค่ะ อย่าลืมทาที่ท้องแขนก่อนนะคะ เพื่อป้องกันอาการแพ้ ลองใช้เปรียบเทียบกันดูหลายๆยี่ห้อและอ่านรีวิวหลายๆแหล่งจะช่วยให้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อยี่ห้อที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองได้ค่ะ

สครับหน้ายี่ห้อไหนดี เราต้องสำรวจผิวตัวเองก่อน จะได้เลือกถูก

หลายคนอาจรู้สึกว่าการสครับหน้าจำเป็นจริงหรือเปล่า เพราะว่าโดยปกติแล้วเราควรหลีกเลี่ยงการขัดถูหรือเสียดสีผิวหน้าโดยไม่จำเป็น ซึ่งการสครับก็ไม่ต่างอะไรจากการขัดถูผิวหน้า ทำให้เกิดความกังวลว่าจะไปรบกวนผิวมากเกินไปจนก่อให้เกิดอาการแพ้หรือเปล่า แต่ว่าจริงๆแล้วหากเราสครับอย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากจะไม่ทำร้ายผิวหน้าแล้ว ยังช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสมากขึ้นแถมลดการเกิดสิวอีกด้วย เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเราก็ต้องเลือกชนิดของสครับให้เหมาะสมกับผิวหน้า แต่ว่าในท้องตลาดก็มีสครับวางขายอยู่หลายแบรนด์จนไม่รู้จะเลือกใช้ สครับหน้ายี่ห้อไหนดี ถ้าอย่างนั้นลองมาดูวิธีเลือกกันก่อนดีกว่าค่ะ

ผิวมัน เหมะกับสครับที่มีส่วนผสมจากไข่ขาวหรือเกลือทะเล เนื่องจากไข่ขาวจะช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ ส่วนเกลือทะเลจะกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวมันน้อยลง ผิวเปล่งปลั่งอมชมพู ดูสุขภาพดีค่ะ แต่ถ้าใครผิวมันจนดูหมองลองเปลี่ยนเป็นส้มหรือน้ำตาลแทน ผิวจะดูกระจ่างใสมากขึ้น

ผิวแห้ง ควรเลือกสครับที่มีส่วนผสมของครีม เนื่องจากปกติแล้วหลังสครับผิวจะแห้งลงอีกสเตปหนึ่ง เพราะฉะนั้นการเลือกสครับเนื้อครีมจะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ หรือถ้ามันรู้สึกเหนอะหนะไปหน่อยก็เปลี่ยนเป็นสครับสูตรผสมน้ำตาลก็ได้ค่ะ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดีเช่นเดียวกัน

ผิวแพ้ง่าย ต้องเลือกสครับสูตรที่อ่อนโยนต่อผิว เนื้อสครับต้องเนียนนุ่มไม่บาดผิว หากผสมเนื้อผักหรือผลไม้ตามธรรมชาติอย่างมะขาม ข้าวโอ๊ต รำข้าว วอลนัท ฯลฯ จะดีกว่าผสมเกลือหรือน้ำตาลเพราะเนื้อจะนุ่มกว่า ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ที่สำคัญต้องไม่ผสมสารเคมีรุนแรง เช่น สี น้ำหอม สารกันเสีย เป็นต้น

สครับหน้าบ่อยแค่ไหนจึงจะเหมาะสม

ความถี่ในการสครับหน้าจริงๆแล้วอยู่ที่สภาพผิวเป็นหลัก เช่น ถ้าผิวมันจะสครับได้บ่อยกว่าคนผิวแห้งหรืออยู่ในช่วงวัยรุ่น ผิวยังไม่บางก็จะสครับได้บ่อยกว่าคนวัยผู้ใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามการสครับผิวไม่ใส่สิ่งที่ต้องทำทุกวันเหมือนการล้างหน้า เพราะมันจะทำจะส่งผลเสียต่อผิวหน้ามากกว่าผลดี เพราะฉะนั้นควรสครับแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วค่ะ หลังสครับอย่าลืมบำรุงผิวให้มากกว่าปกติด้วย ไม่อย่างนั้นผิวอาจแห้งได้นะคะ

สรุปได้ว่าการสครับผิวหน้าเป็นอีกเรื่องที่ทุกคนไม่ควรละเลย เพราะมันช่วยให้มีผิวเนียนนุ่มกระจ่างใสได้ เพียงแต่ว่าต้องทำอย่างเหมาะสมและเลือกสครับให้เหมาะกับผิวหน้า แต่ถ้าใครยังไม่รู้จะเลือกใช้สครับผิวหน้ายี่ห้อไหนดี สามารถนำวิธีข้างต้นไปพิจารณาก่อนจะตัดสินใจซื้อได้ค่

อยากได้ สบู่ที่ทําให้ขาว แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อหายังไงดี

สำหรับคนที่เกิดมาผิวขาวเป็นทุนอยู่แล้วจะไม่ยากนักเวลาจะฟื้นฟูสีผิวให้เนียน ขาว ใส แต่ว่าหากโดนแสงแดดและมลภาวะบ่อย ๆ จากขาว ๆ ก็เปลี่ยนเป็นแดง คล้ำ ฝ้ามาเยือนได้เหมือนกัน การหา สบู่ที่ทําให้ขาว มาใช้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ขาดไม่ได้ และนอกจากนั้นแล้วคนผิวสี ผิวสองสี ผิวคล้ำ หรือผิวมีปัญหา สิว กระ จุดด่างดำยิ่งต้องเร่งแก้ก่อนใครเลย อย่าปล่อยให้ผิวโดนทำร้ายนานกว่านี้มันกู้กลับคืนยากมาก อายุขัยเราสั้นไปตามเวลาที่เดิน ผิวเราก็เช่นกันยิ่งถ้าไม่ดูแลเลยผิวจะไปก่อนอายุจริงเสียด้วยซ้ำไป

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ขาวนั้นมีหลายแบบมาก ๆ ไม่ใช่แค่สบู่อย่างเดียว อาจจะเป็นครีมทาหน้า ครีมทาตัว โฟม เซรั่ม สครับ และอื่น ๆ เป็นต้น แต่สบู่จะค่อนข้างใช้ง่ายมากสุดแล้วและทำให้ได้ใช้ได้นานอีกด้วย เมื่อเทียบกับที่เป็นครีมแล้วจะหมดช้ากว่า คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่ถ้าเป็นครีมบางทีเราบีบออกมาเยอะไปจนทำให้หมดเร็วไปก็มี แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละคนว่าชอบใช้แบบไหนมากกว่ากัน

สำหรับคนที่ชอบแต่งหน้า ชอบดูแลตัวเอง ดูแลผิวพรรณอยู่แล้วคงไม่มีปัญหาในเวลาการใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ก็คงไม่แปลกด้วยหากเห็นว่าเครื่องสำอาง สกินแคร์ของเธอหรือเขานั้นจะเยอะมาก และของราคาแพง ๆ หลายชิ้น บางคนมองว่าสิ้นเปลืองแต่ในขณะที่ผู้ใช้จะมองว่ามันคุ้มค่า สบู่ที่เห็นผลจริง ราคาประหยัดก็มีอยู่จริงนะ แถมราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิดเลย

การเลือกซื้อสบู่สำหรับผิวขาวนั้น จะต้องดูให้ดี ๆ ด้วยนะเนื่องจากมีให้เลือกเยอะมาก ๆ ไม่ว่าใครก็อยากผิวดีทั้งนั้น แต่สบู่ขาวเร็วเกินไปนั้นค่อนข้างจะอันตรายนะไม่รู้ว่าผสมอะไรในนั้นบ้าง สารเคมีบางตัวนั้นเร่งให้ผิวขาวจริงแต่ว่า ผลข้างเคียงที่จะตามมามันคืออะไรเราไม่รู้ อย่างที่เคยเห็นในข่าวที่หลายคนหน้าพักเพราะใช้ครีมตลาดราคาถูกๆ ที่ถูกเกินความเป็นจริงและเชื่อสรรพคุณที่เวอร์มากไป บางคนถึงขั้นอันตรายต่อชีวิตเลย จึงอยากให้ทุกคนเลือกดีๆ ตัดสินใจดีๆ ก่อนจะซื้อที่ไหนหรือแบรนด์อะไร เพื่อให้ได้ตัวที่ดีที่สุดสำหรับผิว

เลือกใช้สบู่ยี่ห้อไหนดี ?

ถ้าชอบแบบเลือกหลายๆ แบรนด์แล้วเดินช็อปเพลินๆ ก็เข้าช็อปเข้าห้างได้เลย แต่ถ้าออนไลน์ก็มีหลายเว็บที่ขาย พยายามซื้อกับเว็บตัวกลางที่มีความน่าเชื่อถือและความน่าเชื่อถือด้วย แนะนำสบู่ที่ทําให้ขาวยี่ห้อ PURE FACE MASK POWER SOAP หรือ PURE SOAP ซึ่งทั้งสองสูตรนี้ทำให้ผิวขาวจริง ๆ เนื่องส่วนผสมหลักนั้นมาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำนม กรดผลไม้ ทีทรีออยล์ น้ำผึ้ง ว่านหางจระเข้ สกัดโสม วิตามินซี เลม่อน และวิตามินอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับผิว

เราก็ไม่ได้จะการันตีว่ายี่ห้อที่เราแนะนำนี้ดีที่สุดในโลกแต่ว่าดีและปลอดภัยสำหรับผิวอย่างแน่นอน เป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิวด้วย ไม่มีผลข้างเคียงอะไรที่อันตราย แม้ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้อย่างสบายใจ สารสกัดทุกตัวนั้นปลอดภัยแน่นอน หากจะเลือกยี่ห้ออื่น ๆ สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือพลิกหลังกล่องอ่านส่วนผสมก่อน ถ้าไม่รู้ว่าแต่ละตัวคืออะไรนำไปค้นหาข้อมูลใน Google เลย จะได้เข้าใจผลิตภัณฑ์ตัวนั้นแบบถ่องแท้ เราจะดูแค่สรรพคุณตามโฆษณาอย่างเดียวไม่ได้ ยิ่งเป็นแบรนด์ใหม่ยิ่งต้องตรวจสอบให้ละเอียดแบบที่สุดเลย

สบู่แบบไหนที่ควรเลือกใช้สำหรับการบำรุงผิวให้ขาว เนียน นุ่ม น่าสัมผัส

1. เป็นสบู่ที่มีการรับรองมาตรฐานคุณภาพมาแล้ว จะจาก อย. หรือของที่ไหนก็ได้ที่เป็นผู้ตรวจมาตรฐานจริง ๆ
2. อ่านสรรพคุณแล้วตอบโจทย์ความต้องการของเรา ว่ามีส่วนผสมที่ทำให้ผิวขาว สวย เนียนใส จริง ๆ เพราะว่าหากจะเน้นสบู่ที่ทําให้ขาวก็ต้องดูที่มีส่วนประกอบทำให้ขาวด้วยนะ
3. เป็นสบู่ที่มีฟองนุ่ม ๆ ไม่ระคายเคืองต่อผิว
4. ดูให้ดีอีกครั้งว่าส่วนผสมที่มีในสบู่ตัวนั้นเป็นสารสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ
5. แพ็คเกตจิ้งดูดีสมกับราคา เพราะถ้าของดีจริง ๆ นั้นจะใส่ใจในการผลิตตั้งแต่ต้นจนจบเลย ทุกกระบวนการจะต้องผ่านการคิดวิเคราะห์มาอย่างดีแล้วเสมอ
6. ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป ถ้ามันไม่พอดีเราในฐานะลูกค้าก็จะรู้สึกได้เองอยู่แล้ว อีกอย่างของราคาแพง ๆ นั้นไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าจะใช้แล้วผิวขาวดีจริงนะ

สบู่ที่ใช้แล้วดีนั้นจะต้องดีจริงไม่ใช่แค่คำพูดจากนักรีวิว ดารา นักแสดง สิ่งที่จะช่วยตอบคำถามให้ได้ว่าใช้แล้วขาวเห็นผลดีได้นั้นคือตัวเราเอง ถ้าใช้ตัวไหนแล้วชอบแสดงว่าตัวนั้นถูกกับเราแล้วนั่นเอง การที่คนอื่นใช้ตัวไหนแล้วดีก็ไม่ได้แปลว่าเรามาใช้บ้างจะเห็นผลเหมือนกัน เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนต่างกันไป

เวลาไหนที่เหมาะสำหรับการใช้สบู่ที่ทําให้ขาว

สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการใช้สบู่นั้นจะเป็นในตอนเช้า-เย็น ก็คือตอนเราอาบน้ำนั่นเอง ก็ใช้ล้างหน้า ล้างตัวได้ปกติเลย เหมือนกับสบู่ทั่วไปเพียงแต่ว่าสรรพคุณของมันนั้นไม่ใช่แค่ปกป้องผิวจากเชื้อโรคหรือทำความสะอาดอย่างเดียว แต่ว่ายังปรับบำรุงให้ผิวนั้นมีความเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นและได้รับการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนวิธีการใช้สบู่ก็จะต้องอ่านตามที่แนะนำของแต่ละแบรนด์เลย ซึ่งก็ไม่ค่อยจะแตกต่างอะไรกันนัก วิธีใช้แบบง่าย ๆ คือหาตาข่ายตีฟองมาช่วย ผสมกับน้ำเปล่าสักหน่อยจากนั้นก็ทำการตี จนเป็นฟองนุ่มๆ แล้วค่อยนำมานวดล้างหน้าเบา ๆ เสร็จแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นก็ทาเซรั่ม และ ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดดให้เรียบร้อยก่อนจะแต่งหน้า แม้ว่าจะทำงานในร่มหรือในห้องแอร์แต่ว่าการทาครีมกันแดดก็สำคัญนะ พอเลิกงานกลับบ้านหากเหนื่อยมากอยากจะล้มตัวลงนอนเลยให้อดทนไว้อีกนิด ไปล้างหน้าอาบน้ำก่อนค่อยนอนจะทำให้หลับสนิทยิ่งขึ้น อย่างน้อยถ้าไม่อยากจะอาบน้ำจริง ๆ แต่ยังไงก็ต้องล้างหน้านะใช้สบู่จัดการสิ่งสกปรกด้วยและบำรุงผิวไปในตัวด้วยเลย อย่าลืมหาสบู่ผิวขาวมาไว้ใช้ล้างหน้าก่อนนอนด้วยนะ

ตอนนี้คุณมีสักยี่ห้อแล้วหรือยังที่เป็นสบู่สำหรับทำให้ผิวขาว อย่างน้อยหากเลือกยากเพราะว่ามีหลายแบรนด์มาก ๆ ยังมี PURE FACE MASK POWER SOAP และ PURE SOAP อยู่ด้วย ลองดูสรรพคุณแต่ละตัวว่าเป็นแบบไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด สิ่งที่จะทำให้ผิวกลับมาขาวได้นั้นจะหวังพึ่งเพียงสารสกัดจากธรรมชาติจากสบู่อย่างเดียวนะ การดูแลผิวในแบบอื่น ๆ ก็สำคัญเหมือนกันอย่าปล่อยให้ผิวโดยทำร้ายตลอด

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการดูแลผิวหน้าและผิวกายให้ขาว สวย เนียนใสยิ่งขึ้น การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว ผัก ผลไม้จำเป็นอย่างมากต้องทานเยอะ ๆ เลย เวลาออกงานกลางแจ้งหรือจ้องเจออะไรแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ อย่าลืมทากันแดดและทาครีมด้วยทุกครั้ง หาสครับดี ๆ สักตัวมาขัดผิวสักหน่อยเป็นการเปิดรูขุมขนเพื่อให้เซรั่มลงไปบำรุงผิวอย่างล้ำลึกได้ พอกหน้าบ้างก็ดี ขัดผิวกายด้วยยามว่าง ออกกำลังกายหน่อยจะได้ขับเหงื่อและสารพิษตกค้างในร่างกายได้ด้วย นอนเร็ว ๆ จะดีมากและต้องครบ 6 – 8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ และหาสบู่ที่ทําให้ขาวมาใช้สักก้อนนั่นถือว่าเป็นการครบเครื่องในการดูแลสุขภาพผิวแล้ว ส่วนใครจะใส่ใจดูแลได้มากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่วินัยของแต่ละคนแล้วนะ ถ้าอยากมีผิวสวยก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

สบู่ที่ทําให้ขาว มีเยอเยอะหลายแบรนด์ จนเลือกไม่ถูกเลย

สบู่ที่ทําให้ขาวมีจริงไหม ใช้แล้วเห็นผลหรือเปล่า?

สบู่ที่เปลี่ยนผิวดำคล้ำ ให้กลับมาขาวกระจ่างใสได้อีกครั้ง

สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี ที่กำจัดความดำออกไป

นานแค่ไหนแล้วที่ผิวไม่ได้รับการสครับบำรุง แค่ทาครีมอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนาน ๆ ทีก็ควรจะหาเวลาว่างขัดผิวบ้างก็จะดีไม่น้อยเลย สครับดี ๆ มีคุณภาพมีเยอะ หากคุณกำลังอยากจะได้สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีมาคืนความขาวใสให้กับผิวเราจะมาแนะนำวิธีการเลือกให้ พร้อมทั้งบอกถึงประโยชน์ของการขัดผิวว่าดีอย่างไร ทำให้ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพผิวมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของการสครับผิว

1.ช่วยให้ผิวแตกลาย ผิวเปลือกส้ม เหมาะกับคนที่มีผิวแตกลายอย่างเช่นคุณแม่หลังคลอด คนที่น้ำหนักลดแล้วผิวแตกลาย ทำให้รอยดูจางลงไปผิวจะเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ค่อย ๆ ขัดไปเบา ๆ

2.ลดริ้วรอยได้ทำให้ผิวสวยดูอ่อนเยาว์ได้ นอกจากการดูแลสุขภาพอย่างอื่นด้วยแล้วการขัดผิวจะช่วยทำให้ริ้วรอยลดเลือนลดไป แถมยังช่วยลดความหมองคล้ำอีกด้วย ใครออกแดดบ่อย ๆอย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยนะ จากนั้นก็ค่อย ๆขัดอาทิตย์ละครั้งกำลังดี

3.การสครับผิวหน้าช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ เนื่องจากเป็นการเปิดรูขุมขน ทำให้มีความกระชับ รูขุมขนไม่อุดตันเลยทำให้หน้าไม่มันและสิวก็ไม่มาเยือนอีกด้วยนะ ลองหาสครับดี ๆ มาขัดกันเลย

4.ช่วยป้องกันการเกิดสิว เวลาที่สครับผิวหน้านั้นเซลล์ผิวเก่าที่ตายไปแล้วได้หลุดออก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มาเกาะผิวก็หลุดไปด้วยเช่นกัน เลยทำให้ลดการเกิดสิวได้โดยเฉพาะสิวอักเสบที่รักษายาก ๆ สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีล่ะที่จะช่วยขัดผิวหน้าได้แนะนำใช้ของ jellysthailand จะช่วยได้เยอะเลย ผิวกลับมาขาว เนียน อย่างเป็นธรรมชาติ

5.ช่วยลดการแห้งตึงผิว ทำให้มีความเนียนนุ่มชุ่มชื้น หลังจากทำการขัดสครับผิวเรียบร้อยแล้วอย่าลืมทาโลชั่นบำรุงผิว จะช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงมากยิ่งขึ้น แบบนี้จะได้ไม่แห้งตึงขาดความชุ่มชิ้น ใครที่ผิวแห้งการขัดสครับบ่อย ๆ อาจจะไม่เหมาะ แต่ว่าทุกสภาพผิวนั้นจะต้องทาครีมบำรุงผิวเหมือนกัน

การขัดผิวหน้าหรือผิวกายนั้นก็ล้วนมีข้อดี แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกัน ถ้าขัดบ่อยจะทำให้ผิวแห้งจนเกินไปนั่นเอง การขัดผิวนั้นหากทำในช่วงเวลาและจังหวะที่เหมาะสมจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ผิวขาว เนียน ใส ได้เลย ทั้งนี้ก็จะต้องเลือกวิธีดูแลผิวพรรณในด้านอื่น ๆ ด้วยนะจะอาศัยทาครีมกับสครับอย่างเดียวก็ไม่ได้ จะต้องรู้จักพักผ่อนให้เพียงพอ พร้อมกับเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายพร้อมกับอ่อนโยนกับผิวเยอะ ๆ ด้วยนะ

เพื่อให้ผิวมีสุขภาพดีสม่ำเสมอ เวลาขัดผิวนั้นจะต้องทำอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพพร้อมกับทำให้ถูกวิธีด้วย ซึ่งแนะนำให้ทำตามขั้นตอนการสครับดังนี้

1.ก่อนอื่นเลยเลือกมาก่อนว่าจะใช้สครับขัดผิวขาว เพื่อผิวขาวเนียนควรจะต้องได้ยี่ห้อที่มีคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง เพราะว่าหากบางคนก็คิดว่าของแพงเท่านั้นถึงจะดีมันก็ไม่ใช่หรอก เพราะว่าแบรนด์ราคาไม่แพงมากแต่คุณภาพเคาท์เตอร์แบรนด์ก็มีออกจะเยอะแยะ ถ้าใครไม่รูจะใช้ยี่ห้อไหนแนะนำมาที่ใช้ jellysthailand ได้เลย มีสครับดี ๆ ให้เลือกเยอะเลย

2.วางแผนมาร์ควันที่ไว้เลยว่าจะสครับผิววันไหน เวลาที่เหมาะสุดในการขัดผิวคือกลางคืนแต่ว่ากลางวันก็ทำได้ แต่จะต้องเป็นวันที่ผิวไม่ได้รับการใช้งานหนัก ๆ อย่างการทำงานกลางแจ้ง หรือไปเจอมลภาวะหนัก ๆ มาที่ทำให้ผิวบอบบางเพราะถ้าเป็นแบบนั้นแล้วมาขัดจะยิ่งทำให้ผิวบางกว่าเดิมอีก

3.เวลาขัดจะต้องเบามือ เราจะขัดเอา ๆ แบบแรง ๆ ไม่ได้เด็ดขาดอย่าลืมว่าผิวหนังนั้นบอบบางมาก ๆ โดยเฉพาะผิวหน้า ลูบไปเบา ๆ ก็ได้ตัวสครับปกติก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีอยู่แล้ว จะควรจะขัดให้เป็นวงกลม ๆ ให้ทั่วเลย ขัดไปทั้งหน้า แก้ม หน้าผาก จมูก ทุกส่วนเลย โดยเฉพาะคางจะต้องขัดให้ดีเป็นพิเศษจุดนี้สิวเสี้ยนค่อนข้างเยอะ สำหรับระยะเวลาในการขัดที่พอเหมาะคือ 5 – 10 นาที เพียงเท่านี้ผิวก็สวยแล้ว

4.อย่าลืมทาครีมบำรุงผิวหลังจากที่สครับด้วยทุกครั้ง และเวลาจะออกจากบ้านต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดด้วยเสมอ เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องที่ดีพอ ประสิทธิภาพของการสครับคือทำให้ผิวสะอาด กระชับ คืนความใสแต่จะต้องมีอย่างอื่นคอยซัพพอร์ต

ตอนนี้คุณมีผลิตภัณฑ์สครับที่ดีสำหรับผิวแล้วหรือยัง มันไม่ยากสำหรับการเลือกว่าจะใช้สครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี เพียงแต่จะต้องใส่ใจในการเลือกให้มาก ๆ ไม่ซื้อง่ายจ่ายเร็วจนเกินไป และอย่าเชื่อคำโฆษณาที่ดูชวนเพื่อเกินเหตุ เช่น ทาปุ๊บขาวปุ๊บประดุจกระดาษ แบบนั้นมันไม่ใช่แล้วหากผลิตภัณฑ์ตัวนั้นขัดแล้วผิวหน้าออกมาขาวแบบนั้นจริง ๆ แสดงว่าจะต้องมีส่วนผสมของสารเคมีที่อันตรายอยู่แน่ ๆ จะต้องตรวจสอบให้ดีก่อนจะตัดสินใจซื้อ

วิธีเลือกสครับขัดผิวหน้าที่ใช้แล้วขาวจริง ปลอดภัยต่อผิว

1.ดูที่แบรนด์นั้นเลยว่า มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน เช่น มีใครรู้จักหรือเปล่า ลองไปหาอ่านดูตามเว็บบอร์ดเกี่ยวกับความสวยความงาม หรือถ้าเป็นแบรนด์ใหม่ก็ดูว่าเขาเจอะกลุ่มตลาดไหน ราคาเท่าไหร่ มีคนใช้แล้วหรือยังพยายามอย่าเป็นผู้ใช้คนแรกของแบรนด์จะดีกว่า เพราะมันดูจะเสี่ยงไปหน่อย

2.ดูว่ามี อย.ไหม มีเลขจดแจ้งอะไรแล้วหรือยัง ? ถ้ามีแล้วก็ลองเอาเลขไปตรวจดูให้ดีด้วยว่าเป็นของผลิตภัณฑ์ยี่ห้อสครับนั้นจริงไหม เพราะว่า อย.ปลอมก็เยอะ การสวม อย.ก็แยะมากมาย กลยุทธ์ของคนไม่ดีมันมีเยอะ เราจะหาซื้ออะไรมาบำรุงผิวจะต้องเลือกดี ๆ สักหน่อย หากพลาดขึ้นมานั้นหน้าพัก หน้าเละไม่คุ้มกันเลย จ่ายค่าครีม สครับ เครื่องสำอางราคาถูกคิดว่าคุ้มแล้วแต่ต้องมาจ่ายค่าหมอทีหลังมันก็ไม่ไหวนะ ฉะนั้นเราจะต้องมั่นใจว่าของที่ใช้นั้นคุณภาพจริง ๆ พอใช้จริงก็ต้องดีจริงไม่ใช่อุปทานกันไปเอง

3.จะเลือกสครับผิวขาวยี่ห้อไหนดี อ่านส่วนผสมด้วยว่ามีอะไรในนั้นบ้าง แม้จะเป็นของที่ติดตลาดแล้ว มีความน่าเชื่อถือพอสมควรแต่ถ้าหากมีส่วนผสมบางตัวที่เราแพ้ และไม่ดีต่อผิวหน้าก็จำเป็นต้องวางมันลงแล้วหาใช้ยี่ห้ออื่นแทน บางคนจะดูแค่ราคากับสรรพคุณให้ขัดแล้วขาวอย่างเดียวพอ โดยไม่ยอมอ่านสรรพคุณเลย

4.อย่าติดแบรนด์มากไป แต่ก็อย่าเลือกของราคาถูกเกินความเป็นจริง ก่อนจะซื้อตัวไหนลองคิดสักนิดว่าอะไรที่มันถูกมากไปแสดงว่าต้นทุนที่ผลิตนั้นคงจะต่ำมาก ลองมานึกๆ ดูว่าส่วนผสมที่เอามาทำสครับแต่ละตัวนั้นต้นทุนมันจะต่ำขนาดนี้ได้ไหม แต่ตัวที่แพงนั้นก็แน่นอนว่าส่วนมากมักจะเป็นของดีแต่ว่าก็ใช่จะเป็นทุกยี่ห้อนะ บางยี่ห้ออัพราคาแพงลิ่วแต่คุณภาพหาได้สูงตามราคาเลย สิ่งที่จะทำให้เลือกได้ว่ามันดีเหมาะสมกับราคาที่จะจ่ายไหมคือ หาอ่านรีวิวดูว่าคนอื่นที่ใช้เป็นอย่างไรบ้าง ผลตอบรับเป็นกระแสลบหรือบวกมากกว่ากัน

5.ซื้อมาทดลองใช้เลย เป็นวิธีที่สุดโต่งและต้องมีการลงทุนสักหน่อยแต่ก็เหมาะดีนะ อยากรู้ว่าอะไรดีไม่ดีการทดลองใช้เลยจะให้คำตอบได้ดีที่สุด ก่อนจะขัดสครับจริง ๆ ลองเอามาทาที่ข้อพับแขนดูก่อนว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับผิวหรือไม่ ถ้าไม่มีอะไรก็ใช้ได้เลยส่วนประสิทธิภาพจะดีแค่ไหนแต่ละยี่ห้อก็คงต้องเปรียบเทียบและสัมผัสได้เอง แล้วจะเจอว่าตัวไหนคือสครับที่เหมาะกับผิวหน้าของคุณ

การมีผิวขาวเนียนสวย น่าสัมผัสและดูอ่อนเยาว์นั้นทุกคนย่อมต้องการฉะนั้นก็รีบหาสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดี ก็ได้ที่คุณใช้แล้วชอบ เพื่อให้ผิวหน้าได้รับการดูแลจากผลิตภัณฑ์ที่มคุณภาพราคากันเอง คุ้มค่าใช้แล้วขาวจริง เนียนจริงแนะนำมาที่ jellysthailand เว็บเข้ามาเลือกสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง สนใจสครับหรือผลิตภัณฑ์ตัวไหนสั่งซื้อแบบออนไลน์ได้เลย เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีวัตถุดิบจากธรรมชาติอ่อนโยนต่อผิวหน้าและผิวกายใช้ดีมาก ไม่อยากให้พลาดแล้วคุณจะหลงรักผิวตัวเองอีกครั้ง

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

สครับขัดผิวขาวยี่ห้อไหนดี พร้อมประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด

ข้อควรรู้ในการตัดสินใจเลือก สครับขัดผิวขาวยี่ห้อไหนดี

สครับขัดผิวขาวยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา