ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

ครีมบำรุง คืออะไร พร้อมเคล็ดลับการเลือกครีมบำรุงหน้า

ครีมบํารุงหน้ามีให้เลือกมากมาย แล้วเราควรจะเลือกซื้อยังอย่างไรดี

ปัญหาผิวพรรณ โดยเฉพาะสำหรับคุณสาวๆ ต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ คงไม่มีผู้หญิงคนไหน ไม่อยากมีผิวขาวสวย โดยเฉพาะสาวเอเชีย อย่างประเทศไทยของเราที่ได้รับเอาวัฒนธรรมของชาวต่างชาติ อย่างประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และจีนมา การที่มีผู้หญิงมีสุขภาพผิวดี ขาวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เรามีผิวขาวสวย ก็คงหนีไม่พ้นครีมบำรุงผิว วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ ครีมบำรุงผิวให้มากขึ้น พร้อมแนะนำเคล็ดลับการเลือก ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุด

 

ครีมบำรุงผิว คืออะไร

ครีมบำรุงผิว คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ช่วยปรีบสีผิวให้สม่ำเสมอ ฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน แห้งเสีย ให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอีกครั้ง ลดเรือนริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ ให้แลดูจางลง ปกป้องผิวจากแสงแดด ไม่ให้รังสียูวีทำร้ายจนผิวหมองคล้ำ พร้อมทั้งช่วยลดการเกิดสิว อย่างไรก็ตาม ครีมบำรุงผิวหนึ่งแบรนด์ หรือหนึ่งยี่ห้อ อาจไม่ได้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้น โดยอาจมีเพียงคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้น เช่น ครีมบำรุงที่เน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เน้นช่วยลดสิว เน้นลดเลือนริ้วร้อย เป็นต้น หมายความว่า ครีมบำรุงผิว แต่ละแบรนด์ แต่ละยี่ห้อนั้น มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป มีส่วนผสมที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้มีจุดเด่นที่ต่างกันออกไปด้วยนั่นเอง

 

ก่อนที่จะไปดูเคล็ดลับการเลือกครีมบำรุงหน้าที่ดีที่สุด เราไปดูกันก่อนดีกว่าว่าครีมบำรุง มีกี่ลักษณะโดยแต่ละลักษณะนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร

ครีม : เนื้อครีม ลักษณะคือมีความเข้มข้นสูง แต่จะไม่เยิ้มจนเกินไป และเนื้อครีมที่ดีต้องสามารถซึมซับเข้าสู่ผิวได้เร็ว โดยสามารถใช้ทาระหว่างวันได้

โลชั่น : โลชั่น มีเนื้อที่บางเบา เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้ทาบนผิวกาย เช่น แขนและขา โดยโลชั่นจะสามารถเกลี่ยได้ง่าย ซึมซับเข้าสู่ผิวได้ดี แต่จะมีความเข้มข้นน้อย เหมาะกับการทาลงบนผิวกายในบริเวณที่มีขนดก

สเปรย์ : ใช้ฉีดพ่นลงบนผิวหนัง ตรงจุดที่เข้าถึงได้ยาก ตลอดจนผิวหนังที่เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ โดยที่ไม่ควรใช้มือสัมผัส

ขี้ผึ้ง : เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้งกร้าน ครีมชนิดนี้จะไม่มีสารกันบูดเป็นส่วนผสม แต่มีความเข้มข้นสูง จึงทำให้รู้สึกมันหรือลื่น เมื่อชโลมลงบนผิว

สำหรับเคล็ดลับ การเลือก ครีมบํารุงหน้าที่ดีที่สุดคือ เลือกครีม ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ที่สำคัญต้องเลือกยี่ห้อที่เชื่อถือได้ สินค้าผ่านการรับรองมาตรฐาน  มีอย. เพื่อให้มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย แนะนำให้เลือกครีมบำรุงหน้า ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ หลีกเลี่ยงครีมที่มีสารเคมีเป็นส่วนผสม เช่น น้ำหอม พาราเบน และแอลกอฮอล์ เป็นต้น

สบู่ผิวใสกับขั้นตอนการขัดผิว เพื่อให้เห็นผลดีที่สุด

เคล็ดลับการใช้สบู่ผิวขาว เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

อยากมีผิวขาวใส สบู่ช่วยได้ ปัจจุบันมีสบู่ที่ทำให้ผิวขาว หลายยี่ห้อ หลายแบรนด์ ทั้งที่ปลอดภัย ไว้ใจได้ และไม่ปลอดภัย ดังนั้น คุณจะต้องเลือกสบู่ที่ทําให้ผิวขาว แบรนด์ที่เชื่อถือได้ ผ่านการรับรองจากสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง มี อย. และเลขที่จดแจ้งถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากเห็นแก่ของถูกหรือแพ็คเกจที่สวยหรูอย่างเดียว อาจเป็นอันตรายหรือทำให้หน้าคุณพัง! ได้เลยทีเดียว วันนี้เรามีขั้นตอนการขัดผิว ด้วยสบู่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมาฝาก  

ทำความสะอาดผิวก่อน ขั้นตอนแรก ให้สาวๆ ทำความสะอาดร่างกายและใบหน้าด้วยสบู่ที่ทำให้ผิวขาว 1 รอบ ถูกให้ทั่วเรือนร่าง ลำคอ ตามซอกตามมุมและบนผิวหน้า จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ฟอกสบู่ให้เกิดฟองและขัดผิวอย่างอ่อนโยน  ขั้นตอนต่อมา ฟอกสบู่จนเกิดฟองที่นุ่ม จากนั้นนำฟองสบู่มาขัดผิดด้วยความอ่อนโยน อาจใช้ใยบวบหรือฟองน้ำช่วยขัดผิวก็ได้ ขัดถูด้วยใยบวบวนเป็นวงกลมอย่างนุ่มนวล แล้วมาส์กทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที หรือรอจนฟองสบู่เริ่มยุบและแห้ง จึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ใช้ฟองน้ำหรือใยบวบขัดผิวอีกสักรอบ ในขณะที่ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ใช้ใยบวบหรือฟองน้ำถูวนเป็นวงกลมอีกครั้ง เพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่แห้งตายหรือเสื่อมสภาพให้หลุดออกไป โดยเฉพาะใยบวบที่สามารถทำความสะอาดได้ลึกซึ้งมากกว่าใช้มือเปล่า เน้นขัดผิวในบริเวณส่วนที่ด้าน ขัดถูแบบวนไปวนมาอย่างเบามือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผล

มาส์กด้วยฟองสบู่อีกครั้ง หลังจากที่คุณทำตามทั้ง 3 ขั้นตอนในข้างต้นแล้ว แต่ผิวของคุณยังดูแห้งหรือฝืดอยู่ แนะนำให้มาส์กด้วยฟองสบู่อีกครั้ง ให้ทั่วตัวและใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที แล้วล้างออกเป็นอันจบกระบวนการขัดผิวด้วยสบู่ที่ทำให้ผิวขาว

ทาครีมบำรุงผิว หลังจากอาบน้ำถูสบู่เสร็จ ควรทาครีมหรือโลชั่น บำรุงผิวอีกครั้ง แนะนำครีมบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว หรืออาจทาครีมบำรุงผิวที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ แต่ถ้าคุณสาวๆ ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรทาด้วยครีมกันแดดจะดีกว่า


ทั้งหมดนี้ ก็คือ ขั้นตอนการขัดตัวด้วยสบู่ที่ทําให้ผิวขาว อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญ คือ การเลือกสบู่ที่ทำให้ผิวขาว สาวๆ จะต้องเลือกสบู่แบรนด์ที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผิว มีสารสกัดมาจากธรรมชาติ ยิ่งดี เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย อย่างเช่น สบู่ที่ทำให้ผิวขาว แบรนด์ JELLYS สาวๆ มั่นใจ ใช้แล้วเห็นผล แบรนด์นี้ปลอดภัย ไว้ใจได้แน่นอน

สบู่ที่ทําให้ขาว เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

ควรเลือกสบู่ให้เหมาะสมกับสภาพผิว เพื่อผลลัพธ์ที่ดี

สำหรับผู้ที่อยากมีผิวขาว ย่อมต้องอยากใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวร่วมกันหลายตัวเพื่อต้องการประสิทธิภาพการบำรุงที่ดีที่สุด ดังนั้นนอกจากครีมและอาหารเสริมแล้ว สบู่ที่ทําให้ขาวก็เป็นอีกไอเท็มที่ต้องมีเช่นเดียวกัน แต่ไม่ว่าจะสบู่ผิวขาวหรือสบู่ประเภทอื่นๆ การเลือกใช้สบู่ให้เหมาะสมกับสภาพผิวนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ว่าแต่ผิวแบบไหนควรใช้สบู่แบบใดดี มาหาคำตอบกันได้ที่ด้านล่าง

สบู่ที่ทำให้ขาวและสบู่ทั่วไปล้วนมีส่วนผสมหลากหลายประเภท ทั้งในส่วนที่ช่วยทำความสะอาดและส่วนที่ช่วยบำรุงผิว ทั้งนี้ผิวแต่ละแบบจะเหมาะกับสบู่ต่างชนิดกันไป แต่จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาดูกัน

1.ผิวธรรมดา เป็นผิวที่มีความได้เปรียบสูง เพราะผิวมักจะแข็งแรงและไม่ไวต่อสิ่งเร้า ดังนั้นจึงใช้สบู่ได้ทุกประเภท ไม่ต้องกังวลว่าผิวจะแห้งหรือมันเกินไป แต่ถ้าสบู่ที่เลือกใช้มีความอ่อนโยน เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติก็จะดียิ่งขึ้น

2.ผิวแห้ง สำหรับบางคนที่มีผิวแห้ง ผิวอาจจะไม่ได้แห้งโดยธรรมชาติแต่เพราะใช้สบู่ที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้ผิวแห้ง สูญเสียความชุ่มชื่นได้ง่าย เพราะฉะนั้นควรเปลี่ยนมาใช้สบู่สูตรผิวแห้งโดยเฉพาะ มีส่วนผสมของกลีเซอรีนหรือมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์ ใช้แล้วช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวหนัง ผิวจะแห้งน้อยลง เนียนนุ่มน่าสัมผัส

3.ผิวมัน เหมาะสำหรับสบู่ที่มีกลีเซอรีนเช่นกัน เพราะจะกำจัดความมันออกไปแบบพอดี ช่วยรักษาสมดุลให้ผิวได้ หากสบู่ที่ใช้กำจัดน้ำมันออกมากเกินไป ในระยะแรกผิวอาจดูแห้งสบาย แต่ในระยะยาวต่อมไขมันจะขับไขมันออกมามากขึ้นเพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป กลายเป็นว่าผิวจะยิ่งมันยิ่งกว่าเดิม

4.ผิวแพ้ง่าย เหมาะสำหรับสบู่สูตรธรรมชาติ มีค่า pH. เป็นกลาง ปราศจากสารเคมีรุนแรง เช่น พาราเบน น้ำหอม สี เป็นต้น หากมีบอบบางแพ้ง่ายจะต้องใช้สบู่ที่มีความอ่อนโยนสูง เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้นั่นเอง

สภาพผิวเป็นปัจจัยที่สำคัญมากสำหรับการเลือกสบู่ที่ทําให้ผิวขาว ครีมไปจนถึงเซรั่มและสกินแคร์รูทีนต่างๆ เพราะผิวแต่ละประเภทจะเหมาะกับการบำรุงที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจะต้องมั่นใจก่อนว่าผิวของตัวเองเป็นผิวแบบใด หากเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผิวได้รับการดูแลอย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

บอกเคล็ดลับทาโลชั่นตอนไหนดีที่สุด

เลือกโลชั่นยี่ห้อไหนดี และควรทาตอนไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

โลชั่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย ที่ปัจจุบันมีวางจำหน่ายหลายแบรนด์ หลายยี่ห้อ โดยแต่ละยี่ห้อ ก็ต่างมีจุดเด่นและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ในขณะเดียวกันสาวๆ หลายคนสงสัยว่า เลือกโลชั่นยี่ห้อไหนดีที่สุด เลือกโลชั่นยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองโดย อย. หรือผ่านการทดสอบการแพ้ จากสถาบันที่เชื่อถือได้ ซึ่งในวันนี้เราไม่ได้จะมาแนะนำโลชั่นยี่ห้อไหนดี แต่เราจะมาบอกเคล็ดลับการทาโลชั่น ทาตอนไหน ดีที่สุด  ถ้าอยากรู้แล้วตามไปดูกันเลย

 

หลังอาบน้ำ ทาโลชั่นหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากหลังจากที่เราอาบน้ำชำระล้างร่างกายเป็นช่วงเวลาที่รูขุมขนเปิด การทาโลชั่นทำให้เนื้อโลชั่นซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น สำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ให้นำเบบี้ออยล์หยดลงใส่มือ 4-5 หยด จากนั้นลูบไล้ให้ทั่วร่างกายหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ค่อยทาโลชั่นตามหลังอีกที ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หรือมองหาโลชั่นที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เพื่อสุขภาพผิวที่ดียิ่งขึ้น

ทาก่อนนอน แนะนำให้ทาโลชั่นก่อนนอน เป็นประจำทุกคืน เนื่องจากในขณะที่เรานอนหลับ เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ฟื้นฟูอวัยวะทุกส่วน รวมถึงผิวพรรณของเราด้วย ดังนั้น เมื่อทาโลชั่นก่อนนอน รวมถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลับอย่างเต็มอิ่ม ช่วยทำให้สุขภาพร่างกายและผิวพรรณดีขึ้น ผิวของคุณจะขาว ผุดผ่อง แบบมีออร่ากระจ่างใสขึ้นมาทันที อีกทั้งยังทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นด้วย

ก่อนออกแดด เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดสูงสุด แนะนำให้เลือกทาโลชั่นที่มีคุณสมบัติปกป้องผิวจากรังสียูวีในแสงแดด เพราะอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าแสงแดดในประเทศไทยของเรานั้น ค่อนข้างร้อนจัด มีแดดแรง ส่งผลทำร้ายผิวให้หมองคล้ำ แห้งเสีย เกิดฝ้า กระและจุดด่างดำต่างๆ รวมถึงริ้วรอยที่มาก่อนวัยอันควร อีกทั้งยังเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังด้วย นาทีนี้ ถ้าถามว่าควรเลือกโลชั่นยี่ห้อไหนดี ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลชั่น ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยคือ โลชั่นที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องรังสียูวีในแสงแดด นั่นเอง

ทั้งหมดนี้ ก็พอจะไขข้อสงสัยของใครหลายคนได้แล้วว่า ทาโลชั่นตอนไหน ดีที่สุด ทาแล้วเกิดประสิทธิภาพสูงสุด จริงๆ แล้ว โลชั่น สามารถทาได้ในระหว่างวัน ช่วงเวลาไหนก็ได้ แต่ถ้าหากคุณทาโลชั่นตามคำแนะนำของเรา เชื่อว่าจะเห็นผลที่ดีต่อผิวพรรณอย่างแน่นอน การเลือกโลชั่น ก็เป็นสิ่งสำคัญ เลือกโลชั่นยี่ห้อไหนดี ตามที่เราได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่า เลือกโลชั่นยี่ห้อที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย ใช้แล้วเห็นผล อย่าง PURE LOTION (เพรียวโลชั่น) แบรนด์ JELLYS ที่การันตีว่าไม่ทำให้คุณสาวๆ ผิดหวังแน่นอน

 

เซรั่มวิตามินซี ยี่ห้อไหนดีที่สุด

มาทำความรู้จักกับวิตามินซี ให้มากขึ้นกันเถอะ

เซรั่มและประโยชน์ของวิตามินซี มีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

วิตามินซี มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากรดแอสคอร์บิก สรรพคุณที่โดดเด่นของวิตามินซีคือช่วยให้ผิวพรรณสวยงาม ต้านอนุมูลอิสระ พร้อมทั้งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาหวัด แถมยังช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ด้วยนะ วันนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ของวิตามินซีในแต่ละหัวข้อ ถ้าอยากรู้ว่าวิตามินซีน่าทึ่งมากแค่ไหนก็ตามไปดูกันเลย

1.บำรุงผิวพรรณ วิตามินซีช่วยบำรุงผิวพรรณให้ขาวสวยแบบมีสุขภาพดี บำรุงผิวให้แข็งแรงเป็นเหมือนเกาะป้องกันผิว ช่วยป้องกันรังสียูวี อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วย เหนือสิ่งอื่นใด วิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวยืดหยุ่น จึงช่วยชะลอริ้วรอย แถมยังช่วยให้แผลบริเวณผิวหนังเกิดการสมานตัวได้เร็วขึ้นอีกด้วยนะ  

2.ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์  เนื่องจากวิตามินซี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระโดยเป็นกลไกลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกาย ยิ่งร่างกายได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกมากเกินไป อาจทำให้สารต้านอนุมูลอิสระสะสมในร่างกายมากเกินความพอดี ส่งผลให้ร่างกายขาดความสมดุล จึงเกิดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวได้เร็วขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบง่าย จนอาจนำไปสู่ภาวะเสี่ยงต่อโรคหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ เป็นต้น  

3.ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน  วิตามินซีได้รับการวิจัยมาแล้วว่าช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว โดยเซลล์เม็ดเลือดขาวเป็นส่วนหนึ่งในสารช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรค แบคทีเรียหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น หากได้รับวิตามินในปริมาณที่เหมาะสมหรือเพียงพอต่อวันจะช่วยให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นนั่นเอง

4.บรรเทาโรคหวัด  สืบเนื่องมาจากวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ร่างกาย จึงช่วยบรรเทาโรคหวัดได้ เพราะเมื่อร่างกายเข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดี โรคภัยก็ยากที่จะเข้ามาเบียดเบียนเราได้ ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการต่อต้านโรควัด ควรทานวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

 

ปัจจุบันมีการนำเอาวิตามินซีที่ได้จากผักและผลไม้บางชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวมาเขาสู่กระบวนการสกัด จนได้วิตามินซีเข้มข้น เพื่อนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อย่างเช่น ครีม โลชั่น และเซรั่ม เป็นต้น โดยเฉพาะเซรั่มวิตามินซีบำรุงผิว ไอเทมยอดฮิตของสาวๆ แต่หลายคนก็ไม่รู้ว่าจะเลือกเซรั่มวิตามิน ยี่ห้อไหนดี ? เพราะในปัจจุบันมีทั้งเซรั่มที่มีคุณภาพและเซรั่มไม่มีคุณภาพ จำหน่ายขายอยู่ทั่วไป หากไม่มีคุณภาพใช้แล้วก่อให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองต่อผิว บางคนถึงขั้นมีอาการแพ้แบบรุนแรง

เซรั่มวิตามินซี ยี่ห้อไหนดีที่สุด

เลือกเซรั่มวิตามินซี ยี่ห้อไหนดีที่สุดให้พิจารณาจากยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ แบรนด์ที่มีชื่อเสียง มี อย. ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เพียงแต่เซรั่มเท่านั้น การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทุกชนิด ความน่าเชื่อถือต้องมาก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายและผิวพรรณของตัวคุณเอง

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

สมุนไพรลดรอยสิวจุดด่างดำ ที่คุณคาดไม่ถึง

แนะนำสมุนไพร ลดรอยจุดด่างดำ พร้อมแนะนำเซรั่มอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีเยี่ยม

รอยสิวและจุดด่างดำ เกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย เช่น แสงแดด การแกะ เกา หรือบีบสิว สิวอักเสบ รอยแผล แมลงหรือยุงกัด เป็นต้น โดยเฉพาะรอยสิวและจุดด่างดำที่เกิดขึ้นบนใบหน้า ที่ทำให้คุณผู้หญิงเกิดความกังวลใจ อีกทั้งยังทำให้ต้องมาเสียเวลาปกปิดใบหน้าด้วยการโบ๊ะเครื่องสำอางให้หนาเข้าไว้ แน่นอนว่าคงไม่มีสาวๆ คนไหนอยากพบเจอกับปัญหานี้ และวันนี้เราก็มีสมุนไพรเด็ดๆ ที่ช่วยลดรอยสิวและจุดด่างดำมาแนะนำ พร้อมทั้งแนะนำเซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีเยี่ยม สาวๆ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

 

ลดรอยสิวจุดด่างดำด้วยสูตร มะนาว + ว่านหางจระเข้

นำวุ้นของว่านหางจระเข้ มาผสมกับน้ำมะนาว ผสมให้เข้ากัน ก่อนนำมาพากหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแบบนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง รับลองว่ารอยสิวและจุดด่างดำแลดูจากลงแน่นอน

 

ลดรอยสิวจุดด่างดำด้วยสูตร น้ำมะขามเปียก + นมสด + น้ำผึ้ง

น้ำมะขาวเปียก ตัวช่วยในเรื่องผิวพรรณ ที่ถูกใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนาน เพียงนำน้ำมะขาวเปียก มาผสมกับนมสดและน้ำผึ้งในอัตราส่วนที่เท่ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ทำแบบนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง บอกลาปัญหารอยสิวและจุดด่างดำไปได้เลย

 

ลดรอยสิวจุดด่างดำด้วยสูตร หัวไชเท้า + น้ำผึ้ง + ดินสอพอง

หัวไชเท้า ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยลดรอยสิว ลดฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ ให้แลดูจางลง วิธีทำ เพียงน้ำหัวไชเท้ามาปั่นให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้งและดินสอพอง ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ก่อนนำมาพอกผิวหน้า 15-20 นาทีแล้วล้างออก ทำแบบนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง รอยดำและรอยสิว แลดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด

 

ทั้งหมดนี้ ก็คือ สมุนไพรช่วยลดรอยดำและรอยสิว การรักษาด้วยสมุนไพร แม้จะเห็นผลดีแต่ก็อาจใช้เวลานาน ในขณะที่เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา กลับเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่า เซรั่ม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีเนื้อบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี และสามารถแก้ไขปัญหาผิวพรรณได้ตรงจุดมากกว่า อย่างเช่น เพียวเซรั่ม แบรนด์ JELLYS

เซรั่มลดรอยสิวจุดด่างดํา

เซรั่มหน้าใส ใช้แล้วดีจึงบอกต่อ มีคุณสมบัติป้องกันสิว ลดรอยสิวหรือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว รวมไปถึงรอยดำหรือจุดด่างดำต่างๆ แก้ไขปัญหาผิวหน้าไม่กระจ่างใส ผิวแห้งกร้านให้กลับชุ่มฉ่ำ บำรุงผิวได้ล้ำลึกถึงระดับเซลล์ผิว พร้อมปรับให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สครับผิวด้วยตนเอง กับ ใช้บริการสถาบันความงาม แบบไหนดีกว่ากัน

สครับผิวที่บ้านได้ง่ายๆ รับรองว่าผิวขาวใสถูกใจแน่นอน

การสครับผิว ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไป กำจัดขี้ไคล สิ่งสกปรกต่างๆ ที่อุดตันในรูขุมขน ช่วยลดการเกิดสิว เผยให้เห็นผิวพรรณที่สวยงาม กระจ่างใส มากยิ่งขึ้น แต่หลายๆ คนก็สงสัยว่าระหว่างสครับผิวด้วยตนเองกับไปใช้บริการสครับผิวที่สถาบันความงาม แบบไหนดีกว่ากัน วันนี้เราจะพาทุกคนมาไขข้องใจไปพร้อมๆ กัน พร้อมกับแนะนำสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีที่ตอบโจทย์คุณสาวๆ มากที่สุด

การสครับผิวด้วยตนเอง คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน เป็นกิจกรรมดูแลผิวพรรณ อีกทั้งยังช่วยให้ผ่อนคลายได้ด้วย วัตถุดิบที่ใช้ในการสครับผิว สามารถหาได้จากก้นครัว เช่น น้ำตาล มะขาวเปียก เกลือ น้ำผึ้ง กากกาแฟ เป็นต้น นอกจากจะได้ผิดที่ขาวสวยแล้ว ยังช่วยให้ประหยัดต้นทุนอีกด้วย หรือถ้าคุณไม่ค่อยมีเวลา ขี้เกียจหาวัตถุมาปรุงสูตรสครับเองก็สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์สครับผิวได้ง่ายๆ ตามร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ในช่องทางออนไลน์

 

แต่การสครับผิวที่สถาบันความงามส่วนใหญ่ คือ จะเน้นการดูแลผิวแบบครบวงจร โดยมีขั้นตอน ดังนั้น

– กระตุ้นให้รูขุมขนเปิด ด้วยการอบผิว

– สครับผิว เพื่อกำขัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพหรือตายแล้วให้หลุดออกไป

– มาส์กบำรุงผิวหลังสครับ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิว

– อาบน้ำแร่ แช่น้ำนม ตามความต้องการของลูกค้า

สถาบันความงามแต่ละแห่ง จะมีโปรแกรมการสครับผิว ที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงขั้นตอนการทำที่ไม่เหมือนกันด้วย บางที่มีการนำเอาศาสตร์นวดแผนไทยเข้ามาผสมผสาน โดยเน้นให้ความสำคัญในด้านสุขภาพร่างกาย แต่ถึงแม้ว่าการสครับผิวที่สถาบันความงามจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าหรือเป็นการดูแลผิวพรรณที่ครบวงจรมากกว่า ซึ่งคุณก็อาจต้องยอมควักกระเป๋าตังค์จ่ายในราคาที่สูงด้วยเช่นเดียวกัน  

จะดีกว่าไหม หากคุณเลือกซื้อสครับผิวที่มีคุณสมบัติมาส์กบำรุงผิวไปด้วยในตัว ในราคาที่คุ้มค่า ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายแพง กับคำถามที่ว่า เลือกสครับขัดผิวขาว ยี่ห้อไหนดีเราขอแนะนำ Snail Candy Scrub by Jellys

สครับผิวขาว ที่เป็นได้ทั้งสครับขัดผิดและมาส์กบำรุงผิวในตัว มาในราคาคุ้มค่า ช่วยปรับผิวให้ดูขาวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความนุ่มและชุ่มชื้นให้แก่ผิว ป้องกันสิวได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญขี้ไคลหลุดกระจาย ผิวขาวขึ้นหลายระดับเป็นสครับที่อ่อนโยน ไม่มีสารอันตรายใดๆ การันตีเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ถ้าไม่เชื่อ เราท้าให้คุณลอง แคนดี้ สครับ เป็นได้ทั้งสครับและมาส์กบำรุงผิว สาวๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน  

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

เลือกสบู่ที่ทําให้ผิวขาว ที่มีสารสกัดมาจากธรรมชาติ

จะรู้ได้อย่างไรว่าสบู่ก้อนไหน คือ สบู่ธรรมชาติ

สบู่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย ของใช้จำเป็นในชีวิตปัจจุบัน แต่ในยุคนี้ สมัยนี้ สบู่ ไม่เพียงแค่ช่วยทำความสะอาดร่างกาย กำจัดเชื้อโรค สิ่งสกปรก หรือแบคทีเรียเท่านั้น แต่ยังมีสบู่ที่ทําให้ผิวขาวตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงได้เป็นอย่างดี ว่ากันว่า สบู่ที่ดีควรมีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย การใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของสารเคมี อาจเป็นอันตรายต่อผิวได้ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า สบู่ก้อนไหน คือ สบู่ที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ

สบู่ธรรมชาติ สามารถสังเกตได้จากฉลากของสบู่ โดยทั่วไปสบู่ธรรมชาติจะมีวัตถุดิบไม่มากนัก อาจมีเพียงแค่ไขมันพืชหรือไขมันสัตว์ ผสมกับด่างโซเดียมไฮดรอกไซด์ ในขณะเดียวกันก็อาจมีส่วนผสมหรือสารสกัดจากดอกไม้ พืช  วิตามินที่ได้จากผลไม้ น้ำมันมะพร้าว ฯลฯ สบู่ธรรมชาติ โดยปราศจากสารเคมี เช่น พาราเบน น้ำหอม สารให้สี ฯลฯ เป็นสบู่ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย

สบู่ที่ทำให้ผิวขาว ปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อ เน้นสบู่ที่มีสารสกัดมาจากธรรมชาติ เลือกยี่ห้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน มี อย. ผลิตขึ้นมาแบบถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากพบว่าใช้แล้วเกิดอาการแพ้ มีผื่นขึ้น หรือมีอาการระคายเคืองใดๆ ตามมา ควรหยุดใช้ทันที แต่หากพบว่ามีอากาแพ้ชนิดรุนแรง แนะนำให้รีบไปปรึกษาแพทย์ทางด้านผิวหนัง เพื่อหาวิธีป้องกันและรักษาต่อไป

เมื่อได้รู้แล้วว่าสบู่ธรรมชาติ จะต้องสังเกตที่ฉลากของบรรจุภัณฑ์ ซึ่งส่วนผสมทุกรายการจะมีการระบุด้วยชื่อสากลทางเครื่องสำอาง (INCI Name) เป็นไปตามระเบียบของ อย. คำถามต่อมาคือ แล้วสบู่สังเคราะห์ มีวิธีดูอย่างไร สบู่สังเคราะห์ สังเกตได้ง่ายนิดเดียวคือ ก้อนสบู่จะมีความใส แต่ก็อาจไม่ได้ฟันธงว่าเป็นสบู่สังเคราะห์ทั้งหมดเสมอไป เพราะสบู่สังเคราะห์ที่ขายกันอยู่ในปัจจุบัน ก็มีทั้งแบบใสและแบบขุ่น อาจต้องอาศัยการดูองค์ประกอบบนฉลากผลิตภัณฑ์ สังเกตง่ายๆ คือ หากเป็นสบู่สังเคราะห์มักจะมีส่วนผสมของ สารที่ทำให้เกิดฟอง สารกันเสีย สารกันหืน และมีตัวทำละลายอีกหลายชนิด

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

ทีนี้ หลายๆ คนก็พอจะแยกออกแล้วว่าสบู่ธรรมชาติและสบู่สังเคราะห์มีลักษณะอย่างไร มีส่วนสผมของอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร ส่วนการเลือกซื้อสบู่ที่ทําให้ขาวก็ต้องเลือกยี่ห้อดีๆ เน้นที่มีสารสกัดมาจากธรรมชาติ มีความน่าเชื่อถือ และอย่าลืมสังเกตฉลากผลิตภัณฑ์ว่ามีส่วนผสมของอะไรบ้าง สบู่ที่ทำให้ผิวขาว ที่มีสารสกัดมาจากธรรมชาติ ช่วยปรับให้ผิวกระจ่างใส เติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และมีความอ่อนโยนต่อผิว อย่างเช่น สบู่แบรนด์ เจลลี่ JELLYS ที่ต้องบอกเลยว่า สาวๆ ใช้ได้อย่างปลอดภัย ใช้แล้วติดใจแน่นอน

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว สว่างกระจ่างใส ดูผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

ถ้ามีสบู่ที่ทําให้ผิวขาวแล้ว ยังช่วยดูแล้วความชุ่มชื่นของผิวให้สวยใสได้ง่าย ๆ คุณจะเลือกไหม ?

สาวๆ คนไหนที่กำลังมีปัญหาเรื่องผิวโทรม ผิวดูหมองคล้ำ ดูไม่สดใส ลองดูอีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับ จากเราทีม Jellys Thailand ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์ สบู่ที่ทําให้ผิวขาวดูสว่าง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ รับรองว่า คุณสาวๆ จะประทับใจกับผลลัพธ์ ที่ดี หากคุณสาวๆ ใช้สบู่ที่ตัวนี้บำรงผิวอย่างต่อเนื่อง กับ PURE SOAP ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย

 

PURE SOAP เป็นผลิตภัณฑ์ ดูแลและบำรุงผิวพรรณ ที่มีประสิทธิภาพจากธรรมชาติ เป็น สบู่น้ำมันมะพร้าวเข้มข้น สูตรพรีเมี่ยม 98%  เน้นว่าสกัดมาจากธรรมชาติ ตัวนี้มาพร้อมสารสกัดกลูต้าไธโอน และคุณค่าวิตามินจากผลไม้ที่รวมอยู่ในก้อนเดียว บอกเลยว่า คุณภาพเข้าสู่ผิวพรรณคุณ บำรุงกันไปเต็มๆ เปิดประสบการณ์ใหม่ในการทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกและอ่อนโยน พร้อมการฟื้นฟูบำรุงผิว แถมยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกขี้ไคลให้หลุดออก หากใช้ต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดการอักเสบของผิว และช่วยเติมน้ำสู่ผิว ทำให้ผิวแลดูชุ่มชื่น ไม่มีปัญหาเรื่องผิวแห้งกร้านแต่อย่างใด ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ทำให้สุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวแลดูกระจ่างใสตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้

แล้วจะทำอย่างไรจะใช้สบู่ที่ทำให้ผิวขาว PURE SOAP ตัวนี้อย่างไรให้ได้ประสิทธิผลดีที่สุด วิธีใช้ก็ง่ายๆ ขั้นตอน การทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกายอย่างล้ำลึก เรียกว่าคุณสาวๆ สามารถใช้ได้ทุกวันเป็นประจำทุกเช้า – เย็น

 

อันดับแรก ก็เพียงแค่เรียก PURE SOAP ถูสบู่ให้เกิดฟองนุ่ม ซึ่งสามารถที่จะฟอกสบู่ทั่วทั้งผิวหน้า และผิวกายซึ่งระหว่างที่ฟอกถูกสบู่ ให้ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที การฟอกผิวด้วยสบู่ตัวนี้ สามารถใช้สบู่ควบคู่กับการขัดผิว ซึ่งราคาก็แสนเป็นมิตรเกินคุณภาพที่ได้หลังใช้เป็นประจำต่อเนื่องได้ทุกวัน เพียงแค่ 99 บาทเท่านั้น มั่นใจได้กับใบเลขที่ใบรับแจ้ง : 10-1-6100053288 ปลอดภัยมั่นใจทุกครั้งที่ได้ใช้สบู่ที่ทําให้ขาว PURE SOAP จาก Jellys

สบู่ที่ทําให้ผิวขาว

ส่วนผสม ส่วนประกอบสำคัญ ที่ทำให้สบู่ที่ทำให้ผิวขาว PURE SOAP ตอบโจทย์ทุกปัญหาสภาพผิวให้ดีขึ้นได้ง่าย เพราะมีส่วนประกอบจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น…

1.น้ำมันมะพร้าว (COCONUT OIL) มีคุณสมบัติช่วยเรื่องการระคายเคือง และเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ช่วยลดความมันและรักษาสิว ลดการอักเสบ และกำจัดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ได้ดี

2.กรดผลไม้ (ALPHA HYDROXY ACIDS) ตัวนี้ เป็นการสกัดเอากลุ่มกรดอินทรีย์ เพื่อนำเอา AHA มาใช้ประโยชน์เนื่องจาก AHA ที่มีความเข้มข้นสูง ผลจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ผลข้างเคียงก็เพิ่มขึ้นด้วย ประโยชน์ของ AHA คือการผลัดเซลล์ผิว เร่ง กระตุ้นการผลัดเซลล์ของผิวหนัง โดยผิวหน้าจะขาวใส ดูเรียบเนียนขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดูจางลง แผลเป็นนูนราบลง และลดริ้วรอยก่อยวัย

3.กลูต้าไธโอน (GLUTATHIONE) ตัวนี้จะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งทำให้ผิวแลดูขาว กระจ่างใสได้ดี

4.วิตามินอี (VITAMIN E) เสริมเพื่อช่วยเสริมสร้างและต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ทำให้ผิวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยทำให้ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยสิวต่างๆ แลดูจางลงได้ดี

5.น้ำมันจากเนื้อในเมล็ดปาล์ม (PALM KERNEL OIL) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดริ้วรอย และทำให้ผิวเต่งตึง ช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีของแสงแดด และช่วยให้เซลล์ผิวหนังได้ปรับสภาพคอลลาเจน

โลชั่นยี่ห้อไหนดี

ผิวแห้งมีอาการอย่างไร และเลือกใช้โลชั่นยี่ห้อไหนดี

ผิวแห้งเลือกโลชั่นยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว

ปัญหาผิวแห้ง เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น สภาพอากาศหนาว แช่น้ำร้อนนาน แพ้ครีม สบู่และผงซักฟอก เป็นต้น แม้ว่าปัญหาผิวแห้ง จะไม่สร้างอันตรายที่ร้ายแรง แต่ก็สร้างความรำคาญใจให้เราไม่ใช่น้อย ตัวช่วยที่สาวๆ หลายคนเลือกใช้ คือ โลชั่นบำรุงผิว ที่มีคุณสมบัติคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว คำถามคือ ควรเลือกโลชั่นยี่ห้อไหนดี แต่ก่อนจะไปดูว่าโลชั่นตัวไหนเด็ด เราไปดูกันว่า ผิวแห้ง มีอาการอย่างไร

 

อาการของคนผิวแห้ง มีดังนี้

– ผิวหนังหยาบกร้าน

– มีอาการคันบริเวณผิวหนัง

– รู้สึกผิวตึง หลังอาบน้ำเสร็จ

– ผิวลอก แห้งแตกและอาจมีเลือดออก

– ผิวซีด

ผู้ที่มีอาการผิวแห้งแบบรุนแรง ควรไปพบแพทย์ทางด้านผิวหนังโดยตรง ไม่ควรรักษาเองหรือปล่อยเอาไว้นาน อาจเกิดอันตรายได้ เช่น ผิวแห้งที่ลอก แห้งแตกจนมีเลือดไหลออกมา มีรอยแดง ผิวตกสะเก็ด และมีอาการแสบร้อน หรือมีอาการปวดร่วมด้วย ไปจนถึงติดเชื้อจากการเกา เป็นต้น

การรักษาผิวแห้ง วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ การทาโลชั่นบำรุงผิว โลชั่นสามารถทาได้ระหว่างวัน แต่ถ้าจะให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี แนะนำให้ทาโลชั่นหลังจากอาบน้ำเสร็จ เลือกโลชั่นเนื้อบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี มีคุณสมบัติเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว หรือช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อย่างยาวนาน ป้องกันปัญหาผิวแห้ง ส่วนคำถามที่ว่าเลือกโลชั่นยี่ห้อไหนดี แนะนำให้เลือกโลชั่นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ มี อย. หรือผ่านการรับรองจากสถาบันทดสอบการแพ้ รวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงโลชั่นที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น น้ำหอม สารให้สี พาราเบน และแอลกอฮอล์ เป็นต้น

โลชั่นยี่ห้อไหนดี

นอกจากการบำรุงผิวด้วยโลชั่นแล้ว คนที่มีปัญหาผิวแห้งยังต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ที่อุดมไปด้วย วิตามินซี โอเมก้า 3 ที่มีกรดไขมันจำเป็น อย่าให้ร่างกายขาดวิตามินเอ ปกป้องผิวจากแสงแดด เป็นต้น รวมไปถึงการดื่มน้ำให้มากๆ ต้องดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว เพื่อให้ร่างกายสมดุลและไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังอาจทำให้ผิวแห้งกร้านได้ง่ายขึ้น

ส่วนสาวๆ คนไหน ที่กำลังตามหา โลชั่น บำรุงผิวดีๆ แต่ไม่รู้จะเลือกโลชั่นยี่ห้อไหนดีขอแนะนำ เพียวโลชั่น แบรนด์ JELLYSโลชั่นที่ตอบโจทย์คนผิวแห้งได้เป็นอย่างดี เนื้อโลชั่นบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตราย มี อย. ไว้ใจได้ในเรื่องความปลอดภัย นอกจากช่วยเติมความฉ่ำให้ผิวได้แล้ว ยังช่วยทำให้ผิวขาว กระจ่างใส ในแบบที่คุณต้องการด้วย