ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

เทคนิคเลือก ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วหน้าไม่ลอย

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วเนียน ใช้แล้วสวย ถูกใจคุณสาวๆ

สาวๆ หลายคนมักจะเจอกับปัญหาการทารองพื้นแล้วหน้าลอยใช่ไหม วันนี้เรามีเทคนิคการเลือกรองพื้นให้ใช้แล้วสวยเป๊ะมาแนะนำกัน ซึ่งใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือก ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ก็ต้องมาดูเทคนิคเหล่านี้กันเลย

1.ต้องรู้สภาพผิวของตนเอง

จะเลือกรองพื้นให้ใช้แล้วสวยเป๊ะ พร้อมปกปิดได้ดีก็ต้องรู้สภาพผิวของตัวเองก่อน ว่ามีสภาพผิวแบบไหน เช่น ผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่าย เป็นต้น เพื่อจะได้เลือกครีมรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองมากที่สุด

2.เลือกเนื้อรองพื้นที่ทาแล้วสวย

ครีมรองพื้นมีเนื้อครีมหลายแบบ เช่น เนื้อกำมะหยี่ เนื้อแมท ฯลฯ โดยจะเลือกแบบไหนดีนั้นก็ต้องดูให้เข้ากับตัวเองด้วย ซึ่งอาจลองทาดูก่อนก็ได้ เพื่อดูว่าทาแล้วสวยเป๊ะ หน้าไม่ลอยหรือไม่ ทั้งนี้แต่ละคนก็อาจจะเหมาะกับเนื้อรองพื้นที่ต่างกันไป

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

3.เทสรองพื้นให้ถูกจุด

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี อันนี้ตรงทดลองใช้ดูก่อน สาวๆ ส่วนใหญ่มักจะเทสรองพื้นที่มือหรือแขนของตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นวิธีเทสที่ผิด เพราะสีผิวจะต่างกันทำให้ได้สีรองพื้นที่ไม่เข้ากับใบหน้าได้ โดยจุดที่เหมาะกับการเทสรองพื้นมากที่สุดก็คือบริเวณช่วงกรามและคอนั่นเอง เพราะจะทำให้ได้สีรองพื้นที่ทาลงบนใบหน้าแล้วสวยจริง

4.ทดสอบสีรองพื้นด้วยหน้าสด

การจะทดสอบสีรองพื้นให้ได้สีที่เข้ากับใบหน้าอย่างลงตัวและเป๊ะที่สุดนั้น ควรทดสอบกับผิวหน้าสดๆ ที่ยังไม่ได้แต่งแต้มอะไรลงไปจะดีกว่า เพราะหากคุณแต่งหน้าแล้วไปลองเทสจะทำให้สีรองพื้นที่เห็นต่างกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง เมื่อนำมาใช้จริงก็จะทำให้ใบหน้าดูลอยหรือดรอปได้

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

5.ใช้แสงธรรมชาติเข้าช่วย

เคยสังเกตไหมว่าแสงไฟจะช่วยขับให้ใบหน้าดูผ่องขึ้น ซึ่งบางครั้งการที่คุณลองเทสเครื่องสำอางในร้านที่มีแสงไฟเต็มไปหมด อาจดูสวยก็จริง แต่เมื่อออกมาท่ามกลางแสงธรรมชาติกลับดูไม่เอ๊ะเอาซะเลย เพราะฉะนั้นถ้าจะเลือกรองพื้นให้สวยหน้าไม่ลอย ก็ควรทดสอบรองพื้นท่ามกลางแสงธรรมชาติจะดีกว่า

สำหรับสาวๆ ที่กำลังมองหารองพื้นที่ทาแล้วโดนใจ แต่ไม่รู้จะเลือกครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ก็ลองนำ 5 เทคนิคเหล่านี้ไปใช้ในการพิจารณาเลือกรองพื้นให้เหมาะกับตัวเองกันดู แล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมเน้นเรื่องความปลอดภัยกันด้วย โดยเลือกรองพื้นสูตรอ่อนโยนต่อผิวและมี อย. รับรองความปลอดภัยนั่นเอง

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว เลือกยังไงให้เหมาะสม กับสภาพใบหน้า

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว มีเคล็ดลับในการเลือกยังไงบ้าง

สำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาสิว การจะเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับตัวเองก็เป็นอะไรที่ยากมากทีเดียว เพราะหากเลือกผิดนั่นอาจทำให้คุณมีสิวเห่อขึ้นมาเต็มใบหน้ามากกว่าเดิมก็ได้ ดังนั้นมาเลือกกันแดดสําหรับคนเป็นสิวกันดีกว่า โดยมีคำแนะนำในการเลือกดังนี้

1.ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม

เพราะความมันบนใบหน้าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว ดังนั้นหากเลือกครีมกันแดดที่มีน้ำมันก็จะยิ่งทำให้เป็นสิวมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงต้องเลือกครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำมันโดยเฉพาะ แล้วคุณจะหมดกังวลกับปัญหาสิวไปได้เลย แถมไม่ทำให้หน้ามันอีกด้วย

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

 

2.เนื้อครีมบางเบา

ครีมกันแดดที่มีเนื้อครีมบางเบาจะสามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีและไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน จึงไม่ค่อยมีปัญหาสำหรับคนเป็นสิวมากนัก และไม่ทำให้ต้องรำคาญใจกับความเหนียวเนอะหนะของเนื้อครีมอีกด้วย ดังนั้นใครที่เป็นสิวก็ต้องเลือกกันแดดที่มีเนื้อครีมบางเบาหรือมีน้ำเป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่กันเลย

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

 

3.เลือกกันแดดชนิดเจล

จากการทดสอบพบว่ากันแดดชนิดเจลจะเหมาะกับคนที่เป็นสิวมากกว่าชนิดครีมหรือโลชั่น เพราะซึมซับได้ง่ายกว่าและมีความอ่อนโยนต่อผิว จึงไม่ทำให้มีปัญหาสิวมากวนใจอย่างแน่นอน หรือหากใครไม่ชอบแบบเจลจะใช้แบบสเปรย์แทนก็ได้เหมือนกัน

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

 

4.เป็นสูตรสำหรับคนเป็นสิว

นอกจากเลือกตามวิธีที่ได้แนะนำไปแล้ว ก็มีกันแดดสําหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะอีกด้วย โดยจะมีการผลิตขึ้นมาด้วยสูตรที่อ่อนโยนเพื่อคนเป็นสิวโดยตรง จึงไม่ต้องกังวลเลยว่าจะทำให้สิวที่เป็นอยู่เห่อขึ้นมามากกว่าเดิมหรือไม่ แถมบางสูตรก็มีส่วนช่วยในการรักษาสิวให้หายเร็วขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นทั้งกันแดดและครีมรักษาสิวเลยทีเดียว

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

 

5.ปกป้องได้ทั้ง UVA และ UVB

เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดมากที่สุด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติในการปกป้องได้อย่างครอบคลุมทั้ง UVA และ UVB ที่สำคัญควรมีค่า SPF 30+ ขึ้นไป จะช่วยป้องกันแสงแดดได้ดีที่สุด

กันแดดสําหรับคนเป็นสิว

สำหรับใครที่เป็นสิวก็ลองเลือกกันแดดสําหรับคนเป็นสิวตาม 5 วิธีนี้กันดู แล้วจะได้ครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวเองโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิวเห่อขึ้นเต็มใบหน้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็ต้องเลือกครีมกันแดดที่มี อย. และมีการรับรองด้วยว่าได้ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าปลอดภัยจริงจะได้ไม่มีปัญหาตามมานั่นเอง รวมถึงต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองด้วยเช่นกัน

หน้าใสทําไง

หน้าใสทําไง แจกเคล็ดลับ 10 วิธีง่ายๆให้ผิวหน้าขาวใส

หน้าใสทําไง คำตอบนี้ไม่ยาก เพราะเราจะมาบอกคุณว่าทำยังไง

สิว คือศัตรูตัวฉกาจของผิวหน้า เพราะนอกจากต้องมารบรากับสิวแล้วยังต้องมาตามกวาดล้างรอยแผลเป็นที่สิวทิ้งไว้ให้ด้วย หลังต้องเผชิญกับปัญหาผิวมานานจนท้อใจ จนสงสัยว่าอยาก หน้าใสทําไง วันนี้เรามี 10 เคล็ดลับดีๆที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวมาฝากกัน

1.ห้ามล้างหน้าบ่อย เพราะมันจะทำให้ผิวบอบบางขึ้น ทั้งยังไปกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นด้วยเพราะคิดว่าใบหน้าแห้งเกินไป ซึ่งมันเพิ่มโอกาสในการเป็นสิวอุดตันมากขึ้นนั่นเอง แต่ถ้าใบหน้ามันมากก็ใช้ทาแป้งและใช้ทิชชู่ซับเบาๆพอ

2.ห้ามนอนดึก การนอนสำคัญกับสุขภาพผิวมาก ควรนอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เพราะถ้าคุณบำรุงดีแค่ไหน แต่ถ้านอนดึกนอนน้อย การบำรุงก็แทบไม่มีประโยชน์เลย

หน้าใสทําไง

 

3.ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร อย่าดื่มครั้งละเยอะๆ แต่ค่อยๆจิบตลอดวัน จะช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกมาได้ดี ผิวก็จะใสและดูอิ่มน้ำมากขึ้นนั่นเอง

4.ลดอาหารในกลุ่มเสี่ยง หลีกเลี่ยงการทานอาหารบางชนิดที่อาจกระตุ้นให้เป็นสิวมากขึ้นได้ เช่น อาหารไขมันสูง อาหารรสจัด ช็อคโกแลต เป็นต้น

หน้าใสทําไง

 

5.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ผิวหน้าก็จะใส เปล่งปลั่งแลดูมีเลือดฝาดมากขึ้น

6.ห้ามบีบสิว เมื่อสิวขึ้นให้ดูแลผิวหน้าตามปกติ แต่อาจจะระวัดระวังมากขึ้นหน่อยบริเวณที่เป็นสิว และห้ามบีบ แคะ แกะ เกาสิวโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นสิวอาจอักเสบหรือทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ได้

หน้าใสทําไง

 

7.ทาครีมกันแดด เพราะแสงแดดเป็นตัวการสำคัญในการทำร้ายผิว นอกจากจะทำให้ใบหน้าหมองคล้ำลงแล้วยังทำให้เป็นสิวได้ด้วย แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ขึ้นไปถ้าอยู่ในร่ม แต่ถ้าออกไปเจอแดดแรงๆ ต้องใช้แบบที่มีค่า SPF 30+ ขึ้นไปถึงจะเอาอยู่ค่ะ

8.แยกผ้าเช็ดหน้ากับผ้าเช็ดตัวออกจากกัน ถ้าทำไม่ได้ให้ใช้ทิชชู่ซับหน้าแทนหลังล้างหน้าเพราะผ้าเช็ดหน้าก็เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ อย่าลืมทำความสะอาดผ้าห่ม ผ้าปูที่หมอนและปลอกหมอนอยู่เป็นประจำด้วยเพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค

หน้าใสทําไง

 

9.ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานอาหารให้ครบถ้วน 5 หมู่ ทานผักผลไม้เยอะๆ อาหารที่ดีจะช่วยบำรุงให้ผิวใสได้จากภายในสู่ภายนอก

10.ทาครีมบำรุงผิวอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มสารอาหารให้ผิว ช่วยผิวหน้าแข็งแรงและกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเราด้วยนะคะ

หน้าใสทําไง

จะเห็นได้ว่าแต่ละข้อนั้นทำตามได้ง่ายมาก เน้นไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นหลักและเพิ่มการบำรุงอีกนิดหน่อย ทุกคนก็จะได้ผิวสวยๆกลับมาจนไม่ต้องมาเผชิญกับคำถามที่ว่าอยากหน้าใสทําไงดีกันอีกต่อไป

หน้าเป็นฝ้า

หน้าเป็นฝ้าทำไงดี แจกวิธีรักษาฝ้าจากธรรมชาติ

หน้าเป็นฝ้า ไม่ต้องกังวลไป เรามีวิธีจัดการปัญหานี้มาฝากคุณ

ฝ้า เป็นอีกหนึ่งปัญหาของผิวพรรณที่สร้างความกลุ้มอกกลุ้มใจไม่น้อย เพราะว่ามันเห็นได้ชัดมาก และรักษานานมากกว่าจะหายขาด แต่ก็ใช่ว่าจะรักษาไม่ได้ เพียงแค่ต้องอดทนและให้เวลาหน่อยเท่านั้น ใครที่หน้าเป็นฝ้าละอยากกลับมาหน้าขาวใจ วันนี้เรานำวิธีรักษาฝ้าจากธรรมชาติมาแจกกันค่ะ

ฝ้า (Malasma) เกิดจากการที่เม็ดสีเมลามินถูกผลิตมากเกินไป ทำให้สีผิวบริเวณเข้มมากขึ้นจนเห็นได้ชัด ฝ้ามีความคล้ายคลึงกับ “กระ” มาก แตกต่างกันตรงฝ้านั้นมีขนาดใหญ่มากกว่าและสามารถขึ้นทั่วทุกที่บนใบหน้า ส่วนปัจจัยที่กระตุ้นทำให้เกิดฝ้านั้นมีหลายประการ เช่น แสงแดด ฮอร์โมน อายุ เครื่องสำอาง การทานยาบางชนิด เป็นต้น โดยคนเรามักจะเริ่มเป็นฝ้ากันเมื่ออายุได้ประมาณ 30 ปีขึ้นไป

 

วิธีรักษาฝ้าจากธรรมชาติ

มีวัตถุดิบมากมายจากธรรมชาติที่จะช่วยรักษาหน้าเป็นฝ้าให้ผิวกลับมากระจ่างใสขึ้นได้ หากต้องการรักษาด้วยตนเองก่อนหรือไม่อยากพึ่งพาสารเคมี สามารถลองวิธีดังต่อไปนี้ได้

1.หัวไชเท้า ล้างหัวไชเท้าให้สะอาด นำมาปอกเปลือกแล้วปั่นหยาบ อาจผสมกับน้ำผึ้งหรือนมสดก็ได้ จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 10-20 นาทีขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน อาจจะรู้สึกแสบยิบๆในขณะพอกเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าแสบมากเกินไปก็ไปล้างออกได้เลย ช่วงแรกแนะนำให้ทำวันเว้นวัน เมื่อฝ้าจางลงแล้วค่อยเว้นระยะห่างค่ะ สูตรนี้ใช้รักษาฝ้าได้ดีมาก แถมยังช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ด้วย แต่ว่าคนที่ผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้งไม่ควรใช้สูตรนี้

หน้าเป็นฝ้า

 

2.แอปเปิ้ลไซเดอร์ คือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ได้ดี ใช้แล้วช่วยให้ผิวนุ่ม กระจ่างใสและฝ้าจางลงได้ นำแอปเปิ้ลไซเดอร์มาผสมกับน้ำอุ่นเล็กน้อย ใช้สำลีชุบแล้วบิดแค่หมาด แล้วเอามาเช็ดวนบริเวณที่เป็นฝ้า 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรทำแค่ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ก็พอเพราะมีความเป็นกรดค่อนข้างสูง

หน้าเป็นฝ้า

 

3.มะขาม เป็นสมุนไพรแบบไทยๆที่อุดมไปด้วยกรด AHA จากธรรมชาติ ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่เนียนใสมากขึ้น ช่วยให้รอยฝ้าแลดูจางลงได้ นำมะขามเปียกไปผสมกับน้ำให้พอข้นแล้วเอามาพอกบริเวณที่หน้าเป็นฝ้าทิ้งไป 5 นาทีแล้วล้างออก สามารถทำได้ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์

หน้าเป็นฝ้า

เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีรักษาฝ้าที่นำมาฝากกัน ทำตามไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ อย่างไรก็ตามการป้องกันย่อมดีกว่าการมานั่งรักษา ดังนั้นแนะนำให้ป้องกันไว้ก่อนโดยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกครั้งที่ต้องเผชิญกับแสงแดด ถ้าแดดแรงมาก็ทาวันละ 2 ครั้ง และพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้หน้าเป็นฝ้า เช่น รังสีจากจอ ไอร้อนจากเตา เครื่องสำอางที่มีน้ำหอมเป็นส่วนผสม เพียงเท่านี้ก็มีผิวหน้าขาวใส ห่างไกลฝ้าแล้วค่ะ

หน้าใสทําไง

หน้าใสทําไง ใช้ครีมบำรุงหน้าใส จะได้ผลจริงหรือป่าว

หน้าใสทําไง ถ้ามใช้ครีมหน้าใส ช่วยให้หน้าใสได้จริงไหม อยากรู้จังเลย

เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนก็คงอยากมีใบหน้าขาวใสที่ใครเห็นก็ต้องสะดุดตาทันที แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดีนี่สิ ซึ่งแม้ว่าจะมีครีมหน้าใสออกมาวางขายมากมาย แต่ก็ยังคงมีข้อข้องใจกันว่า หน้าใสทําไง ครีมหน้าใสช่วยได้จริงหรือไม่ ก็ต้องตอบเลยว่าหากคุณเลือกครีมหน้าใสของแท้ที่มีคุณภาพดีจริง และได้รับการรับรองแล้วว่าปลอดภัย ใช้แล้วหน้าใสชัวร์ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน แต่หากคุณเลือกครีมหน้าใสที่ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีแบรนด์หรือแหล่งผลิตที่แน่ชัด ทั้งยังไม่มีการรับรองความปลอดภัยอีกด้วย แบบนี้ก็เป็นไปได้ว่าจากหน้าใสจะกลายเป็นหน้าพังแทนได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะเลือกใช้ครีมหน้าใสยี่ห้อไหนดีก็ต้องเลือกที่ปลอดภัยและมีคุณภาพด้วย

หน้าใสทําไง

 

ใช้ครีมหน้าใสจะได้ผลลัพธ์เร็วแค่ไหน

สำหรับผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ครีมหน้าใสก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าบางครั้งใช้ครีมหน้าใสยี่ห้อเดียวกันแบบเดียวกัน แต่กลับได้ผลลัพธ์ที่ช้าเร็วแตกต่างกันไป โดยปัจจัยที่มีผลได้แก่

  • การสัมผัสแสงแดด หน้าใสทําไงท่องไว้เลยว่าต้องอย่าให้หน้าโดนแดด เพราะแสงแดดจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ แม้ว่าจะใช้ครีมหน้าใสทุกวันแต่ถ้าต้องเจอกับแสงแดดเป็นประจำ ก็อาจได้ผลช้าหรือแทบไม่ได้ผลเลย
  • การดูแลทำความสะอาดผิวหน้า โดยหากคุณล้างหน้าให้สะอาดหมดจดอย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้หน้าใสง่ายขึ้นไปอีก แต่ถ้าละเลยการล้างทำความสะอาดผิวหน้าแล้วล่ะก็ การจะทำหน้าใสได้นั้นคงเป็นอะไรที่ยากมากทีเดียว
  • การเลือกครีมให้เหมาะกับสภาพผิว ซึ่งหากคุณเลือกครีมได้เหมาะสมก็จะทำให้ผิวหน้าใสปิ๊งเร็วขึ้น แต่ถ้าเลือกไม่เหมาะก็จะได้ผลช้าหรืออาจเกิดการระคายเคืองจนมีปัญหาผิวตามมาได้

หน้าใสทําไง

 

ควรเลือกครีมหน้าใสอย่างไรดี

จะเลือกครีมหน้าใสอย่างไรดีให้ใช้แล้วได้ผลดีจริง ไม่ยาก แค่เลือกครีมให้เหมาะกับตัวเอง มีการรับรองความปลอดภัยและคุณภาพของครีม ที่สำคัญควรเป็นครีมหน้าใสที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะนั่นจะการันตีได้ในระดับหนึ่งว่าครีมหน้าใสยี่ห้อนั้นดีจริงแน่นอน หน้าใสทําไงไม่ยากเลยใช่ไหมแค่เลือกใช้ครีมหน้าใสที่มีคุณภาพดีจริงเท่านั้น อยากไรก็ตามจะต้องดูแลผิวพรรณให้ดีและทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวด้วย เพื่อบำรุงผิวหน้าให้ขาวใสจากภายในสู่ภายนอกนั่นเอง

หน้าเป็นฝ้า

หน้าเป็นฝ้า รักษาได้ด้วยวิธีธรรมชาติง่ายๆ ได้ผลจริง

เลือกใช้วิธีรักษา หน้าเป็นฝ้า ด้วยวัตถุดิบธรรมชาติใกล้ตัว ที่ราคาไม่แพง

หน้าเป็นฝ้า ปัญหาที่สาวๆ หลายคนมักจะเกิดความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเป็นแล้วมักจะรักษาให้หายได้ยาก และยังทำให้ใบหน้าหมดสวยอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีรักษาฝ้าแบบง่ายๆ ที่ทำแล้วได้ผลจริงมาแนะนำกัน โดยจะมีวิธีไหนบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.รักษาฝ้าด้วยหัวไชเท้า

การรักษาฝ้าด้วยหัวไชเท้า ให้คุณนำมาปอกเปลือกก่อนแล้วบดแบบหยาบๆ จากนั้นนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝ้าทิ้งไว้ 10 นาที เมื่อทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ก็จะทำให้ฝ้าค่อยๆ จางลง และเผยผิวที่ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอมากกว่าเดิม ทั้งนี้อาจปิดท้ายด้วยการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์สักนิดก็ได้ เพื่อทำความสะอาดผิวให้หมดจดและกระชับรูขุมขนไปในตัว

หน้าเป็นฝ้า

 

2.รักษาฝ้าด้วยไข่ขาว

ต้องบอกเลยว่าประโยชน์ด้านความงามของไข่ขาวนั้นมีมากมายจริงๆ นอกจากจะช่วยรักษาสิวและลดรอยดำจากสิวได้ดีแล้ว ก็สามารถนำมาใช้รักษาฝ้าได้อีกด้วย โดยให้นำไข่ขาวมาทาบริเวณที่เป็นฝ้าให้ทั่ว จากนั้นทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วจึงล้างออก เพียงแค่นี้ก็จะแก้ปัญหาหน้าเป็นฝ้าได้อย่างง่ายดายที่สุด

หน้าเป็นฝ้า

 

3.รักษาฝ้าด้วยใบบัวบก

ใบบัวบกไม่ได้มีสรรพคุณแค่แก้ช้ำในเท่านั้น แต่ยังเป็นสมุนไพรชั้นดีที่นิยมนำมาใช้รักษาฝ้าอีกด้วย โดยให้นำใบบัวบกมาปั่นกับน้ำเล็กน้อย แล้วนำน้ำใบบัวบกที่ได้มาใช้แทนโทนเนอร์โดยเช็ดหน้าก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน รับรองว่าฝ้าที่เคยหนาจนเห็นได้ชัดจะค่อยๆ จางลงจนแทบไม่เหลือร่องรอยอีกเลย

หน้าเป็นฝ้า

 

4.รักษาฝ้าด้วยว่านหางจระเข้

เคยใช้ว่านหางจระเข้รักษาฝ้ากันหรือยัง ต้องบอกเลยว่าได้ผลดีมาก โดยให้นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกออกให้หมด แล้วนำเยื่อในที่ได้ไปปั่นจนละเอียด เสร็จแล้วให้นำมาพอกบริเวณที่เป็นฝ้าทิ้งไว้ 15 นาที ซึ่งวิธีนี้ให้ทำแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้งเท่านั้นก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีแล้วล่ะ แต่ก่อนนำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกอย่าลืมแช่น้ำด้วย เพื่อให้ยางสีเหลืองๆ ไหลออกมาจนหมดก่อนนั่นเอง

หน้าเป็นฝ้า

การรักษาหน้าเป็นฝ้าไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหม เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการกำจัดฝ้าด้วยวิธีที่มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็ต้องลองวิธีเหล่านี้กันเลย ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักนิดแต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียว ส่วนใครที่ต้องการรักษาฝ้าให้หมดไปแบบเร่งด่วน ก็อาจใช้วิธีการลอกฝ้าด้วยกรด การยิงเลเซอร์ หรือฉีดเมโสรักษาฝ้าได้เหมือนกัน เพียงแต่จะมีค่าใช้จ่ายพอสมควรและต้องทำอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี หน้าไม่เขียว ไม่วอก ไม่ลอย

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี  ที่ใช้แล้วดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เวอร์วัง

นอกจากการประทินผิวแล้ว อีกหนึ่งเรื่องวุ่น ๆ ของสาว ๆ ก็คือการเติมแต่งสีสันให้กับใบหน้า โดยเฉพาะเรื่องของครีมรองพื้น หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าจะเลือกครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ที่ทำให้ผิวหน้าดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใดูเหมือนหลุดมาจากเวทีงิ้ว ถ้าอยากรู้เคล็ดลับ ตามมาอ่านกันได้เลย

 

เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว

คนที่มีผิวมัน ควรเลือกรองพื้นที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-free) หรือจะเลือกแบบแป้ง (Powder) ก็ได้ เพราะตัวเนื้อแป้งจะช่วยซึมซับน้ำมันส่วนเกินได้ดี แต่ถ้าเป็นคนผิวแห้ง ก็ให้เลือกตรงข้ามกับคนผิวมันเลย โดยเลือกครีมรองพื้นที่มีน้ำมันหรือมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) เป็นส่วนประกอบ ก็จะให้ให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่งมากขึ้น

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

 

รู้จักกับ Undertone

ปกติแล้วสีผิวจะมี Undertone อยู่ 3 แบบด้วยกัน เราสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ถ้าผิวของเราเป็นผิวโทนชมพู (Cool Undertone) ก็จะเห็นเส้นเลือดที่ข้อมือเป็นสีม่วงหรือสีน้ำเงิน ส่วนผิวโทนธรรมชาติหรือผิวโทนกลาง (Neutral Undertone) จะเห็นเป็นสีน้ำเงินหรือสีเขียว และผิวโทนเหลือง (Warm Undertone) ก็จะเห็นเป็นสีเขียวหรือสีเขียวขี้ม้า

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

เมื่อเรารู้ Undertone ของเรา ก็จะทำให้เลือกครีมรองพื้นตามสีของ Undertone ได้ ลดโอกาสการเลือกรองพื้นผิดเบอร์ เมื่อได้ Undertone แล้ว เราก็จะมาดูเรื่องของสีกัน ว่ารองพื้นสีไหนเหมาะกับเราที่สุด วิธีที่ทดสอบที่ง่ายที่สุดนั้นทำได้โดยการทดสอบกับผิวหนังที่บริเวณลำคอ และบริเวณขากรรไกรล่าง สีรองพื้นที่เหมาะสม จะทำให้บริเวณที่เราทารองพื้นลงไป ดูกลมกลืนกับสีผิวบริเวณอื่น ๆ ไม่เด่นชัดออกมา แต่ถ้าลองทาไปแล้วพบว่าดูตุ่น ๆ หรือดูลอย ๆ ให้เปลี่ยนโทนสีใหม่ หรือจะลองผสมสองโทนสีเลยก็ได้

 

จะดูดีหรือไม่ก็อยู่ที่การเลือก Finishes ด้วย

อีกหนึ่งคำแนะนำสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ก็คือเรื่องของ Finishes หรืองานผิว ซึ่งเป็นเรื่องของเนื้อหรือลักษณะของรองพื้นที่จะปรากฏบนผิวหน้าเรานั่นเอง

งานผิวในรองพื้นมี 4 แบบ ได้แก่

  • Matte จะไม่มีความวาว เน้นการปกปิด และติดผิวทนทาน เหมาะกับคนผิวมันมาก ไม่เหมาะกับคนผิวแห้ง เพราะจะทำให้ดูแห้งเกินไป
  • Satin ผิวจะออกวาว แต่ก็ไม่ได้วาวมาก สะท้อนแสงนิด ๆ ดูเบา เป็นธรรมชาติ เหมาะกับทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวมัน
  • Sheer เป็นงานผิวที่เหมือนกับผิวธรรมชาติที่สุด มีความวาวเล็กน้อย ปกปิดได้น้อย เหมาะกับคนชอบลุคผิวเปลือย
  • Dewy, Glow, Luminous หรือ Radiant เป็นงานผิวที่เน้นความมันวาว ดูฉ่ำน้ำ ทำให้ดูมีสุขภาพดี เหมาะกับคนผิวแห้ง

ครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี

สิ่งสำคัญที่เราต้องนึกถึงไว้ก่อนเสมอ ถ้าเกิดคำถามในใจว่าจะเลือกซื้อครีมรองพื้นยี่ห้อไหนดี ต้องนึกไว้เสมอว่า ลักษณะผิวของเราเป็นอย่างไร ผิวมันหรือผิวแห้ง สีผิว Undertone ของเรา และเราชอบงานผิวแบบไหน เข้ากับเราไหม เพียงแค่นี้ก็จะทำให้เราได้รองพื้นที่ทาแล้วปัง ใคร ๆ ก็อยากมอง

ครีมลดจุดด่างดำ

มารู้จักกับอาร์บูติน สารสำคัญใน ครีมลดจุดด่างดำ ยอดนิยม

Arbutin สารสำคัญที่มีอยู่ใน ครีมลดจุดด่างดำ มีสรรพคุณหลายอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นครีมลดจุดด่างดำ หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวกระขาวกระจ่างใสต่าง ๆ ก็มักจะมีส่วนผสมของสารอาร์บูติน (Arbutin) เข้ามาด้วย เราจะมาดูกันว่าจริง ๆ แล้วสารอาร์บูตินคืออะไร ช่วยให้ผิวขาวได้อย่างไร และมีความปลอดภัยจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่

อาร์บูตินคืออะไร

อาร์บูตินเป็นสารสกัดที่ได้มาจากธรรมชาติ สกัดได้จากพืชตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ หรือผลไม้เมืองหนาวอื่น ๆ เช่น ลูกแพร์ และว่ากันว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถือว่าเป็นแหล่งผลิตสารอาร์บูตินที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้

สารอาร์บูตินที่อยู่ในเครื่องสำอาง จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ อัลฟ่าอาร์บูติน (Alpha Arbutin) ซึ่งเป็นสารอาร์บูตินที่ดีที่สุด มีความบริสุทธิ์ที่สุด มีประสิทธิภาพสูงในการทำให้ผิวขาวกระจ่างใส สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว มีราคาแพง และมีความคงตัวมากกว่า

ครีมลดจุดด่างดำ

ส่วนอีกชนิดหนึ่ง เราจะเรียกว่า เบต้าอาร์บูติน (Beta Arbutin) มักจะเรียกว่าอาร์บูตินเฉย ๆ ถ้าผลิตภัณฑ์ไหนไม่ได้ระบุว่าเป็นอัลฟ่าอาร์บูติน เราก็พอจะเดาได้ว่าเป็นเบต้าอาร์บูติน ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพอาจจะด้อยกว่า แต่ก็มีราคาถูกกว่ากันมาก ทำให้เครื่องสำอางหรือครีมลดจุดด่างดำที่ใช้เบต้าอาร์บูตินมักจะมีราคาถูกกว่าตัวที่ใช้อัลฟ่าอาร์บูตินนั่นเอง

 

อาร์บูตินทำให้ผิวขาวหรือจุดด่างดำหายไปได้อย่างไร

ทั้งอัลฟ่าและเบต้าอาร์บูติน ต่างทำให้ผิวขาวหรือทำให้จุดด่างดำหายไปด้วยกลไกเดียวกัน นั่นก็คือการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซีนเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เอาไว้สร้างเม็ดสีเมลานิน ที่ทำให้ผิวของเรามีสีเหลืองไปจนถึงผิวดำ

การยับยั้งที่สาเหตุแห่งความหมองคล้ำโดยตรง ทำให้อาร์บูตินเป็นสารที่ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดรอยด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือลอกเหมือนกับสารที่ทำให้ผิวขาวชนิดอื่น ๆ เช่น กรดผลไม้ หรือกรดวิตามินเอ อีกทั้งไม่ทำให้ผิวบาง จึงเหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย

ครีมลดจุดด่างดำ

นอกจากนี้อาร์บูตินยังมีความปลอดภัยกว่าสารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ถึงแม้ว่าจะออกฤทธิ์เหมือนกัน แต่ตัวอาร์บูตินจะออกฤทธิ์เบากว่า ทำให้ผสมในเครื่องสำอางได้ ต่างกับไฮโดรควิโนนที่การใช้ลดจุดด่างดำ อาจต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการข้างเคียงหรือผลกระทบที่รุนแรงถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ครีมลดจุดด่างดำหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวขาว ที่มีส่วนผสมของอาร์บูติน ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลดี เห็นผลได้เร็ว ออกฤทธิ์เหมือนกับไฮโดรควิโนน แต่ปลอดภัยกว่ามาก ไม่ทำให้ผิวบาง อีกทั้งยังใช้ได้กับทุกสภาพผิว

ครีมลดจุดด่างดำ

การเลือกครีมลดจุดด่างดำ ให้เหมาะกับสภาพผิว เลือกอย่างไร

ครีมลดจุดด่างดำ นั้นมีมากมาย แต่จะเลือกที่ตรงกับสภาพผิวของเรายังไง

จุดด่างดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีสาเหตุมาจากการเป็นสิวด้วยแล้ว ต้องบอกว่า เป็นอะไรที่รักษาได้ยาก และเสียเวลาไม่น้อย และถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบไปคลินิกผิวสวยต่าง แต่ถนัดที่จะรักษารอยจุดตำหนิของผิวด้วยการใช้ ครีมลดจุดด่างดำนั้น เราก็ต้องบอกว่า ข้อดีของมัน คือ ความประหยัด แต่คุณจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว วันนี้ เราได้หาคำตอบมาให้แล้ว

ส่วนผสมที่ใช่ และจำเป็นสำหรับผิวคุณ

ส่วนผสม ควรจะเป็นสิ่งแรกที่คุณดู และมองหาจากครีมเพราะต่อให้ราคาแพงแสนแพง แต่ไม่ได้มีส่วนประกอบที่เหมาะสมกับผิวคุณ ก็ยากที่จะทำให้ผิวของคุณกลับมาดีเหมือนเดิม และส่วนประกอบที่เรามักจะเห็นในครีมลดรอยดำ ต่างๆ ก็มักจะมีอยู่ ไม่กี่อย่าง ดังนี้ เลม่อน ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ให้วิตามินซีสูง ทีทรีออยล์ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิว หรือจุดด่างดำ เชื่อว่าน่าจะรู้จักกับสารทั้ง 2 ตัวเป็นอย่างดี เพราะในการรักษาจุดด่างดำจากสิว จำเป็นมากที่จะต้องใช้สารจากธรรมชาติเหล่านี้

ครีมลดจุดด่างดำ

สาวผิวมันควรเลือกครีมลดจุดด่างดำอย่างไร

ปัญหาของคนที่มีปัญหาผิวมัน ก็คือ นอกจากจะแต่งหน้ายากแล้ว ยังมีขนาดของรูขุมขนที่กว้าง และอุดตันได้ง่ายกว่าคนปกติ นั่นหมายความว่า โอกาสที่คุณจะเกิดสิว ซ้ำซ้อน และรอยดำจากสิว ก็มีขึ้นมาได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเลือกใช้ครีมลดจุดด่างดำ ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว คือ ตัวครีมมีความเข้มข้น และความหนืดที่มากเกินไป จนส่งผลให้ไปกระตุ้นการผลิตน้ำมันส่วนเกินจากใต้ผิว ให้ออกมามากกว่าปกติ ดังนั้น หากต้องการแก้ทั้งปัญหาสิว และจุดด่างดำ ควรเลือกเอสเซ้นต์ หรือเซรั่ม สำหรับแก้ปัญหาจุดด่างดำบนผิวหน้า จะทำงานได้ดีกว่า และโอกาสเสี่ยงเกิดสิวน้อยกว่าด้วย

สาวผิวแห้งทำอย่างไรหากต้องการใช้ครีมลดจุดด่างดำ

ในจุดนี้คิดว่า น่าจะเป็นเรื่องที่หายคนกำลังมองหาคำตอบอยู่เหมือนกัน เพราะถึงแม้ว่าคนผิวแห้ง อาจจะมีผิวที่ละเอียดมากกว่า และมีความมันน้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผิวหน้าของคุณจะไม่มีสิว และจุดด่างดำเกิดขึ้นครีมลดรอยดำ ที่เหมาะสำหรับคุณ ควรมีคุณสมบัติ ช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำมันบนผิวหน้า เพื่อไม่ให้ผิวของคุณแห้งจนเกินไป

ครีมลดจุดด่างดำ

นอกจากนี้แล้ว หากคุณเป็นคนผิวผสม ทางเลือกที่เราอยากจะแนะนำหากต้องการใช้ครีมลดจุดด่างดำ ก็คือ ควรเลือกใช้ทั้งเซรั่ม และครีม หรือโลชั่นสำหรับลดจุดด่างดำ ไปพร้อมกัน โดยแยกทาตามสภาพผิวในแต่ละส่วนของใบหน้า เพียงเท่านี้หน้าใสๆ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับคนที่เคยมีตำหนิบนผิวอย่างคุณ